ออสเตรเลียกำลังเผชิญกับพายุไซโคลนอัลเฟรด (Alfred) ซึ่งเคลื่อนตัวช้าลงนอกชายฝั่งตะวันออกของประเทศในวันนี้ (6 มี.ค.) โดยเจ้าหน้าที่ประกาศปิดโรงเรียนและระงับการขนส่งสาธารณะ ขณะที่ประชาชนต่างกักตุนเสบียงและวางกระสอบทรายรอบบ้านเพื่อป้องกันน้ำท่วมที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเมื่อพายุระดับ 2 นี้พัดเข้าฝั่ง
สำนักอุตุนิยมวิทยาออสเตรเลียรายงานล่าสุดว่า พายุมีแนวโน้มจะเข้าฝั่งภายในเช้าวันเสาร์นี้ (8 มี.ค.) ใกล้เมืองบริสเบนซึ่งเป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 3 ของประเทศ เลื่อนจากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ว่าจะเข้าฝั่งภายในเช้าวันศุกร์ (7 มี.ค.)
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า คำเตือนพายุในวันนี้ครอบคลุมระยะทางกว่า 500 กิโลเมตรตามชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชากรหลายล้านคน โดยพายุจะส่งผลให้เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วม และลมที่สร้างความเสียหายบริเวณพื้นที่พรมแดนระหว่างรัฐควีนส์แลนด์กับรัฐนิวเซาท์เวลส์
คริส มินส์ นายกรัฐมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า "ตอนนี้อัลเฟรดกำลังทำตัวเหมือนแขกที่ไม่ได้รับเชิญ มันบอกเราว่าจะมาช้า แต่จะอยู่นานขึ้น น่าเสียดายที่นั่นหมายความว่า ช่วงเวลาแห่งความเสียหายในชุมชนของเรา ทั้งฝนตกหนัก ลมแรง คลื่นแรง จะยาวนานกว่าที่เราต้องการ"
ดีน นาร์รามอร์ นักพยากรณ์อากาศจากสำนักอุตุนิยมวิทยาออสเตรเลียเตือนว่า การเคลื่อนตัวช้าลงของพายุไซโคลนอาจส่งผลให้ "ฝนตกหนักยาวนานต่อเนื่อง โดยเฉพาะในตอนเหนือของรัฐนิวเซาท์เวลส์" ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะน้ำท่วมฉับพลันที่เป็นอันตรายถึงชีวิต โดยฝนตกหนักจากพายุนี้ได้เทลงมาในบางภูมิภาคแล้ว
นายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบาเนซี ประกาศว่า กองทัพพร้อมสนับสนุนหน่วยบริการฉุกเฉิน ด้านเจ้าหน้าที่ยังเร่งให้ผู้อยู่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมอพยพโดยเร็ว ขณะที่คลื่นยักษ์ที่เกิดจากพายุไซโคลนได้กัดเซาะชายหาดแล้ว
ขณะนี้บ้านเรือนกว่า 5,000 หลังทางตะวันออกเฉียงใต้ของควีนส์แลนด์และอีกหลายพันหลังในตอนเหนือของรัฐนิวเซาท์เวลส์ไม่มีไฟฟ้าใช้ และเจ้าหน้าที่เตือนว่าจะมีไฟฟ้าดับเพิ่มขึ้นเมื่อความเร็วลมเพิ่มสูงขึ้น
โรงเรียนกว่า 1,000 แห่งในตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐควีนส์แลนด์และอีก 250 แห่งในตอนเหนือของรัฐนิวเซาท์เวลส์ปิดทำการในวันนี้ ขณะที่การขนส่งสาธารณะในเมืองบริสเบนถูกระงับ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ระบุว่า พายุอัลเฟรดเป็น "เหตุการณ์ที่พบได้ยากมาก" สำหรับบริสเบน เมืองหลวงของรัฐควีนส์แลนด์ โดยเมืองนี้ถูกพายุไซโคลนพัดกระหน่ำครั้งล่าสุดเมื่อกว่าครึ่งศตวรรษที่แล้วในปี 2517 และเมืองที่มีประชากรประมาณ 2.7 ล้านคนแห่งนี้เคยรอดพ้นจากพายุไซโคลนอย่างฉิวเฉียดในปี 2533 และ 2562