รัฐบาลเมียนมาเปิดเผยว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรง 7.7 แมกนิจูดในเมียนมาพุ่งขึ้นแตะระดับ 1,700 รายแล้วในขณะนี้ นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3,400 ราย และสูญหายกว่า 300 ราย
รายงานระบุว่า ทีมหน่วยกู้ภัยและความช่วยเหลือจากนานาประเทศยังคงหลั่งไหลเข้าสู่เมียนมา หลังจากเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.7 แมกนิจูดใกล้กับเมืองมัณฑะเลย์และตามมาด้วยอาฟเตอร์ช็อก 6.4 แมกนิจูด เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (28 มี.ค.) ซึ่งเป็นหนึ่งในแผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุดในรอบศตวรรษของเมียนมา โดยอินเดีย จีน และไทย ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านได้ส่งปัจจัยบรรเทาทุกข์และทีมงานไปให้ความช่วยเหลือแก่เมียนมา เช่นเดียวกับมาเลเซีย สิงคโปร์ และรัสเซียที่ส่งความช่วยเหลือและบุคลากรไปยังเมียนมาเช่นกัน
ทางด้านสหรัฐฯ ได้ให้คำมั่นว่าจะช่วยเหลือเมียนมาในวงเงิน 2 ล้านดอลลาร์ ผ่านองค์กรช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่ตั้งอยู่ในเมียนมา
พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา กล่าวว่าจำนวนผู้เสียชีวิตอาจจะเพิ่มขึ้นอีก นอกจากนี้ เขายังได้เรียกร้องความช่วยเหลือจากนานาชาติ ซึ่งนับเป็นท่าทีที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนักสำหรับรัฐบาลทหารเมียนมา
อย่างไรก็ดี ชาวเมืองในมัณฑะเลย์และสะกายรายงานว่าความช่วยเหลือจากนานาชาติยังไม่มาถึง นอกจากนี้ พวกเขายังมีความกังวลเกี่ยวกับการขาดแคลนอาหาร ไฟฟ้า และน้ำ
แบบจำลองการคาดการณ์ของสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ (USGS) ประมาณการว่า ยอดผู้เสียชีวิตในเมียนมาอาจสูงถึง 10,000 คน และความสูญเสียอาจจะสูงกว่าผลผลิตทางเศรษฐกิจตลอดทั้งปีของประเทศ