นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย ตัดสินใจร่นเวลาการเยือนซาอุดีอาระเบีย หลังเกิดเหตุมือปืนกราดยิงประชาชนในแคว้นจัมมูและแคชเมียร์ทางตอนเหนือของอินเดีย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตถึง 26 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนมาก ซึ่งถือเป็นเหตุกราดยิงครั้งรุนแรงที่สุดในรอบหลายปี ขณะกองทัพและตำรวจกำลังเร่งค้นหาตัวผู้ก่อเหตุอุกอาจดังกล่าว
สำนักข่าวเพรส ทรัสต์ ออฟ อินเดีย รายงานว่า คนร้ายเปิดฉากยิงโดยไม่เจาะจงเป้าหมายในเมืองปาฮัลกัม ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม โดยในจำนวนผู้เสียชีวิตครั้งนี้มีชาวต่างชาติรวมอยู่ด้วย 2 คน และยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบ
สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้นายกรัฐมนตรีโมดีเดินทางกลับอินเดียทันที โดยร่นเวลาการเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียจากเดิมที่กำหนดไว้ 2 วัน ขณะเดียวกัน โมดียังได้ประณามการโจมตีครั้งนี้ และกล่าวว่าผู้อยู่เบื้องหลังการกระทำนี้จะต้องถูกนำตัวมาลงโทษ
ทันทีที่เดินทางกลับถึงอินเดีย โมดีได้จัดประชุมด่วนกับอาจิต โดวัล ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ และสุพรหมณยัม ชัยศังกระ รัฐมนตรีต่างประเทศ นอกจากนี้ โมดีจะจัดการประชุมคณะรัฐมนตรีฝ่ายกิจการความมั่นคง เพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการตอบสนองต่อเหตุการณ์โจมตีครั้งนี้ โดยคณะรัฐมนตรีชุดนี้เป็นหน่วยงานความมั่นคงสูงสุดของอินเดียที่ประกอบด้วยรัฐมนตรีกลาโหม ต่างประเทศ มหาดไทย และการคลัง
เหตุการณ์โจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นในระหว่างที่เจดี แวนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ เยือนอินเดียเป็นเวลา 4 วัน โดยแวนซ์ได้โพสต์ข้อความบนเอ็กซ์ว่า เหตุการณ์โจมตีครั้งนี้ถือเป็นสถานการณ์ที่เลวร้าย ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ให้คำมั่นว่าจะให้การสนับสนุนอินเดียอย่างเต็มที่ พร้อมกับแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งแก่โมดีและประชาชนชาวอินเดีย
แวนซ์ได้พบปะกับนายกรัฐมนตรีโมดีเมื่อวันจันทร์ (21 เม.ย.) และพำนักอยู่ที่เมืองชัยปะรุในวันอังคาร (22 เม.ย.) จากนั้นแวนซ์มีกำหนดเดินทางไปยังเมืองอัคราในวันนี้ เพื่อเยี่ยมชมทัชมาฮาล