*In Focus: นับถอยหลังอีกหนึ่งสัปดาห์สู่งานออสการ์ครั้งที่ 88 ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไร้เงานักแสดงผิวสี

ข่าวต่างประเทศ Wednesday February 24, 2016 13:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นับจากวันนี้ไปอีกไม่ถึงสัปดาห์ งานประกาศผลรางวัลอคาเดมี่ อวอร์ด ที่คอภาพยนตร์ทั่วโลกตั้งหน้ารอคอยก็จะกลับมาอีกครั้ง แม้งานอันทรงเกียรตินี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 88 แล้ว แต่ความยิ่งใหญ่ของงานนี้กลับไม่เคยเลือนหายไปตามกาลเวลาเลย สำหรับงานประจำปีนี้ จะเปิดฉากในคืนวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2559 ณ ดอลบี้ เธียร์เตอร์ แห่งฮอลลีวูด ตามเวลาสหรัฐ ซึ่งตรงกับเช้าวันจันทร์ที่ 29 ของบ้านเรา โดยมี “คริส ร็อค" นักแสดงและนักแสดงตลกชื่อดังชาวอเมริกันรับหน้าที่เป็นพิธีกร หลังจากที่เขาผู้นี้เคยทำหน้าที่พิธีกรมาแล้วในงานออสการ์ครั้งที่ 77 กว่าสิบปีก่อน

*หน้าเก่าแต่เก๋า VS หน้าใหม่ไฟแรง

หลังจากที่ได้เปิดโหวตเสนอชื่อนักแสดงเพื่อขึ้นรับรางวัลออสการ์มาเป็นแรมเดือน ในที่สุดเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2559 ก็ได้มีการประกาศรายชื่อนักแสดงชิงรางวัล สำหรับบางชื่อนั้น คอออสการ์คงคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นแมตต์ เดมอน ลีโอนาโด ดิคาปริโอ เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ และผู้ชนะรางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยมประจำปีที่ผ่านมาอย่างเอดดี เรดเมย์น แต่ก็มีชื่อนักแสดงรุ่นเก๋าที่มีชื่อปรากฎให้เห็นเป็นครั้งแรกบนเวทีนี้เช่นกันอย่างไบรอัน แครนสตัน บรี ลาร์สัน และเซียร์ชา โรนัน

*ภาพยนตร์ทุ่มทุนสร้าง-หนังดราม่าฟอร์มเล็กตบเท้าชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

สำหรับออสการ์ปีนี้ มีภาพยนตร์ได้รับเสนอชื่อชิงรางวัลใหญ่ทั้งสิ้น 8 เรื่องด้วยกัน ประกอบไปด้วย “The Big Short" “Bridge of Spies" “Brooklyn" “Mad Max: Fury Road" “The Martian" “The Revenant" “Room" และ “Spotlight"

ภาพยนตร์ทั้ง 8 เรื่องนี้มีตั้งแต่หนังฟอร์มยักษ์ที่ใช้ทุนสร้างมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ไซไฟที่ถ่ายทอดการเอาชีวิตรอดบนดาวอังคารอย่าง “The Martian" ที่สามารถทำรายได้มากถึง 620 ล้านดอลลาร์ และภาพยนตร์แอคชั่นสุดมันส์อย่าง “Mad Max: Fury Road" ที่ทำคอหนังทั้งไทยและเทศตะลึงกับความบ้าบิ่นไปตามๆกัน

นอกเหนือจากภาพยนตร์ทุ่มทุนสร้างแล้ว ภาพยนตร์ดราม่าฟอร์มเล็กก็โดดเด่นและมาแรงไม่แพ้กัน ซึ่งบางเรื่องก็เพิ่งออกโรงไทยไปเมื่อไม่นานมานี้ เช่น ภาพยนตร์สุดดราม่าอย่าง “Room" ภาพยนตร์ตีแผ่ความเน่าเฟะของสถาบันศาสนาที่สร้างขึ้นจากเรื่องจริงอย่าง “Spotlight" และภาพยนตร์สะท้อนวงการอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐอย่าง “The Big Short"

*ชาวเน็ตส่งใจเชียร์ “ลีโอนาโด ดิคาปริโอ" คว้าออสการ์สักที

ท้ายที่สุดที่เห็นว่าไม่พูดถึงคงไม่ได้ คือการกลับมาอีกครั้งของลีโอนาโด ดิคาปริโอ บนเวทีออสการ์เพื่อชิงรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากเรื่อง The Revenant ซึ่งได้รับการเสนอชื่อทั้งตัวนักแสดงและภาพยนตร์ หลังจากที่ลีโอนาโดได้รับการเสนอชื่อเพื่อชิงรางวัลออสการ์ถึง 4 ครั้ง (ไม่รวมปีนี้) แต่ก็กินแห้วทุกครั้ง แม้ว่าผลงานภาพยนตร์ของลีโอนาโดที่ผ่านๆมานั้นประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม ไม่ว่าจะจากการแสดงในเรื่อง “The Wolf of Wall Street" และภาพยนตร์ไซไฟสุดซับซ้อนจากการกำกับของคริสโตเฟอร์ โนแลน อย่าง “Inception" จนถึงขนาดที่มีคนสร้างเกมเพื่อช่วยลีโอนาโดคว้าออสการ์โดยเฉพาะ

สำหรับเกมที่ว่านี้ ลีโอนาโด จะต้องวิ่งตามพรมแดนเพื่อชิงรางวัลออสการ์ที่คอยวิ่งหนีอยู่ให้ได้ โดยระหว่างทางก็ต้องคอยกระโดดข้ามปาปารัสซีที่ยืนกีดขวางอยู่ตลอดเส้นทาง ขณะเดียวกันก็ต้องวิ่งให้เร็วกว่านักแสดงที่ได้รับการเสนอชื่อรายอื่นๆด้วย ผู้ที่สนใจสามารถลองเล่นได้ฟรีที่ http://redcarpetrampage.com/

*กระแส #OscarsSoWhite กระหน่ำทั่วโซเชียลมีเดีย เคืองออสการ์ไม่แคร์คนผิวสี

หลังจากที่ออสการ์ได้ประกาศรายชื่อผู้ชิงรางวัลไปได้ไม่นาน ก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในกลุ่มคนผิวสี เนื่องจากผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อนั้นเป็นฝรั่งผิวขาวทั้งหมด โดยกลุ่มคนผิวสีมองว่า ออสการ์มองข้ามคนผิวสีเป็นปีที่สองติดต่อกันแล้ว แม้มีนักแสดงผิวสีมากความสามารถมากมายที่สมควรได้รับการเสนอชื่อ ไม่ว่าจะเป็นวิล สมิธ จากเรื่อง “Concussion" ไอดริส เอลบา จากเรื่อง “Beasts of No Nation" และไมเคิล บี จอร์แดน จากเรื่อง “Creed"

เหตุการณ์ดังกล่าวได้ก่อให้เกิดปรากฎการณ์แฮชแทค #OscarsSoWhite ทั่วสื่อโซเชียลมีเดีย แม้กระทั่งพิธีกรของงานอย่างคริส ร็อค ซึ่งเป็นคนผิวสี ก็ถูกกดดันให้ถอนตัวออกจากการเป็นพิธีกรเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ออสการ์ได้ออกมายืนยันว่า คริส ร็อค จะรับหน้าที่พิธีกรดังเดิม แต่จะมีการปรับเปลี่ยนบทพูดให้สะท้อนถึงประเด็นนี้

ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์อันดุเดือดนี้ ก็มีนักแสดงออกมาแสดงจุดยืนปกป้องการคัดเลือกนักแสดงชิงรางวัลออสการ์ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นนักแสดงผิวขาวหรือนักแสดงผิวสี นักแสดงเหล่านี้มองว่า ออสการ์คัดเลือกนักแสดงจากความสามารถและคุณงามความดีในวงการเป็นหลัก ไม่ได้มองที่เชื้อชาติ โดยไอซ์ คิวบ์ แรปเปอร์และนักแสดงผิวสี กล่าวว่า กระแสวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าว “น่าขบขันสิ้นดี" ขณะที่วูปปี้ โกลด์เบิร์ก นักแสดงผิวสีเจ้าของรางวัลออสการ์สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมประจำปี 2533 จากภาพยนตร์เรื่อง “Ghost" ได้กล่าวไว้ว่า “ดิฉันเคยชนะรางวัลนี้ครั้งหนึ่ง ออสการ์คงไม่ได้เหยียดผิวขนาดนั้น เพราะดิฉันก็ผิวสีมาตลอด"

ด้านผู้จัดงานออสการ์เองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อประเด็นอันร้อนแรงนี้ โดยหลังจากนั้นไม่นาน เชอรีล บูน ไอแซคส์ ประธานจัดงานออสการ์ ก็ได้ประกาศปรับเปลี่ยนสิทธิในการลงคะแนนโหวตและระเบียบการเป็นสมาชิกออสการ์ใหม่หมด ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ผู้หญิงและชนชาติต่างๆเข้ามาเป็นสมาชิกมากขึ้น

คณะผู้จัดงานออสการ์ เปิดเผยผ่านแถลงการณ์บนเว็บไซด์ว่า สิทธิในการโหวตของสมาชิกจะถูกปรับเปลี่ยน จากเดิมสามารถโหวตได้ตลอดชีพ เป็นอายุสมาชิกวาระละ 10 ปี สูงสุดไม่เกิน 3 วาระ ซึ่งสมาชิกที่ว่านี้ต้องมีบทบาทในอุตสาหกรรมด้วย เว้นเพียงว่าบุคคลผู้นั้นเคยคว้ารางวัลออสการ์ หรือได้รับการเสนอชื่อ

*กระบวนการลงคะแนนโหวตภาพยนตร์-นักแสดงชิงรางวัลออสการ์

สถาบันศิลปะวิทยาการภาพยนตร์ (The Academy of Motion Picture Arts and Sciences) ซึ่งเป็นผู้จัดงานออสการ์ มีสมาชิกที่มีสิทธิโหวตลงคะแนนเกือบ 6,300 ราย ประกอบไปด้วยนักแสดงและผู้ทรงอิทธิพลในแวดวงภาพยนตร์ โดยสมาชิกทั้งหมดนี้ เป็นผู้โหวตเลือกภาพยนตร์เพื่อชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

ในส่วนของการคัดเลือกนักแสดง ไม่ว่าจะนักแสดงนำหรือนักแสดงสมทบ เป็นหน้าที่ของสมาชิกสถาบันประมาณ 1,140 ราย ซึ่งเป็นกลุ่มย่อยของสมาชิกทั้งหมด หากบุคคลผู้นั้นเคยได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์แล้ว ส่วนใหญ่ก็จะได้รับคำเชิญเพื่อเป็นสมาชิกทันที และเมื่อเป็นสมาชิกสถาบันแล้ว ก็สามารถลงคะแนนโหวตได้ทั้งทางอินเทอร์เน็ตและใบโหวต ผู้มีสิทธิโหวตนั้นจำเป็นต้องเสนอชื่อนักแสดงทั้งหมด 5 ชื่อด้วยกัน เรียงลำดับตามดุลยพินิจของตน นักแสดงที่ถูกระบุชื่อในอันดับแรกจะได้รับการคัดเลือกเพื่อชิงรางวัลต่อไป หากคะแนนโหวตที่ได้นั้นเกินเกณฑ์ที่กำหนด และคัดเลือกต่อไปเรื่อยๆตามลำดับจนสามารถสรุปรายชื่อนักแสดงชิงรางวัลได้สาขาละ 5 คน

สุดท้ายนี้ เมื่อพิจารณาจากแผนปรับสิทธิในการโหวต อายุการเป็นสมาชิกสถาบัน และกระบวนการลงคะแนนโหวตแล้ว พิธีมอบรางวัลออสการ์ในปีต่อๆไป อาจมีโอกาสได้เห็นนักแสดงเชื้อชาติอื่นๆได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์มากขึ้น ไม่ว่าจะนักแสดงผิวสี นักแสดงชาวละติน หรือแม้แต่นักแสดงแถบเอเชียบ้านเรา สำหรับออสการ์ปีนี้ นักแสดงในดวงใจของคุณจะคว้ารางวัลออสการ์มาครองได้สำเร็จหรือไม่ อย่าลืมติดตามเช้าวันจันทร์ที่ 29 กุมภาพันธ์นี้ ตามเวลาไทย...ห้ามพลาด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ