หลังจากมีข่าวแพร่สะพัดเมื่อช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาว่า นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น จะประกาศจัดการเลือกตั้ง ในที่สุดนายอาเบะก็ได้ออกมาแถลงด้วยตัวเองเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยยืนยันว่า จะประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎรในวันพรุ่งนี้ (28 ก.ย.) เพื่อปูทางสู่การจัดการเลือกตั้งก่อนที่จะครบวาระถึงหนึ่งปีเต็ม
นายอาเบะเคยประกาศจัดการเลือกตั้งก่อนที่จะครบวาระมาก่อนแล้ว โดยเขาได้ประกาศยุบสภาฯก่อนครบวาระเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2557 เพื่อจัดการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 ธันวาคมในปีเดียวกัน อันนำมาสู่ชัยชนะของพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ของนายอาเบะ และพรรคโคไมโตะ ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาล
และหากพรรค LDP และพรรคโคไมโตะชนะการเลือกตั้งอีกครั้ง ก็จะปูทางให้นายอาเบะเป็นนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 4 และเป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2
ทำไมถึงต้องจัดการเลือกตั้งช่วงนี้?*
หลังจากที่พรรค LDP ผ่านมรสุมวิกฤตข่าวฉาวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่นายโมริโตโมะ กาคุเอ็น ซึ่งเป็นผู้บริหารโรงเรียนเอกชนและเป็นเพื่อนของนายอาเบะ ได้ซื้อที่ดินรัฐในเมืองโอซาก้าในราคาที่ถูกเพื่อนำไปสร้างโรงเรียน หรือกรณีรัฐบาลเลือกสถาบันการศึกษาคาเคให้สามารถเปิดคณะสัตวแพทย์ในพื้นที่มีการผ่อนคลายกฎระเบียบเป็นพิเศษในจังหวัดเอฮิเมะ แต่ในที่สุดคะแนนความนิยมของพรรค LDP ก็ได้เริ่มกระเตื้องขึ้นหลังจากที่พรรคประชาธิปไตย (DP) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ได้เผชิญสถานการณ์วุ่นวายนับตั้งแต่นายเซจิ มาเอฮาระ เข้ารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคคนใหม่เมื่อเร็วๆนี้
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นางชิโอริ ยามาโอะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้เป็นดาวรุ่งภายแห่งพรรค DP ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่ง หลังจากที่นิตยสารชูกัน บุนชุน รายสัปดาห์ รายงานว่าเธอมีความสัมพันธ์กับทนายคนหนึ่ง ซึ่งแต่งงานแล้ว
นอกจากนี้ สมาชิกของพรรค DP ยังทยอยลาออกนับตั้งแต่นายมาเอฮาระเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรค โดยเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว นายฮิโรฟุมิ ริว และนายยูอิจิ โกโตะ ได้ลาออกจากพรรค ไล่หลังนายโยชิฮิโระ ซูซูกิ ได้ไม่นาน โดยนายซูซิกิ ถือเป็นสมาชิกพรรคคนแรกที่ยื่นใบลาออกนับตั้งแต่นายมาเอฮาระขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรค
ด้วยเหตุนี้จึงมีความเป็นไปได้ว่า พรรค LDP ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล จะอาศัยจังหวะที่พรรคฝ่ายค้านกำลังระส่ำระสายเพื่อชิงจัดการเลือกตั้งก่อนครบวาระ
นโนบายที่รัฐบาลกำลังจะผลักดันในสมัยหน้า*
นายอาเบะได้เปิดเผยแผนเศรษฐกิจ 2 ล้านล้านเยนโดยมุ่งเน้นสนับสนุนด้านการศึกษา นอกเหนือจากแผนปฏิรูปภาษี และการแก้ไขปัญหาคาบสมุทรเกาหลี การยุบสภาเพื่อจัดการเลือกตั้งใหม่รอบนี้ถือเป็นการขอฉันทานุมัติจากประชาชน ซึ่งถ้าหากพรรค LDP ชนะการเลือกตั้ง ก็เปิดทางให้นายอาเบะเดินหน้ามาตรการเหล่านี้ได้โดยชอบธรรม
- การปฏิรูปภาษี
นายอาเบะระบุว่า ตนต้องการที่จะรวบรัดอำนาจในการใช้จ่ายรายได้ที่มาจากการจัดเก็บภาษี โดยรัฐบาลวางแผนจะนำรายได้จากการขึ้นภาษีบริโภค หรือหมายถึงภาษีมูลค่าเพิ่ม ในปี 2562 ให้เข้าสวัสดิการสังคมมากขึ้น โดยในเวลาต่อมา เขายังได้ยืนยันว่า รัฐบาลจะขึ้นภาษีบริโภคสู่ระดับ 10% ในเดือนตุลาคม 2562 จากระดับ 8% ในปัจจุบัน นอกจากว่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงครั้งใหญ่ที่จะกระทบเศรษฐกิจ เช่น เหตุแผ่นดินไหว และวิกฤตทางการเงิน
- การปฏิรูปสวัสดิการสังคม
ก่อนหน้าที่นายอาเบะจะประกาศยืนยันจัดการเลือกตั้งรอบใหม่ เขาได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ที่ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ในระหว่างเดินทางเยือนนิวยอร์กเพื่อร่วมประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UN) ที่สหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยนายอาเบะ กล่าวว่า ปัจจุบันระบบประกันสังคมจะมุ่งเน้นสิทธิประโยชน์เพื่อผู้อาวุโสวัยเกษียณเป็นหลัก แต่ต่อไปรัฐบาลจะมุ่งเน้นที่สิทธิประโยชน์คนทำงานมากขึ้น และจะปฏิรูประบบประกันสังคมโดยมุ่งเน้นคนทุกวัย
- การเพิ่มอำนาจในการใช้มาตรการกับเกาหลีเหนือ
นายอาเบะกล่าวว่า เขาต้องการที่จะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนอีกครั้ง เพื่อให้ญี่ปุ่นมีความสามารถทางการทูตอันทรงประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาเกาหลีเหนือ ซึ่งรวมไปถึงการสนับสนุนท่าทีของสหรัฐด้วย ในขณะที่สหรัฐได้แสดงความพร้อมที่จะใช้ทางเลือกทั้งหมดที่มี เพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ
- การแก้ไขรัฐธรรมนูญ
การจัดการเลือกตั้งรอบใหม่ยังเปิดโอกาสให้พรรครัฐบาลญี่ปุ่นขอฉันทานุมัติจากประชาชนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งนายอาเบะตั้งเป้าไว้ว่า จะเกิดขึ้นภายในปี 2563
รายงานระบุว่า ปัจจุบัน พรรค LDP อยู่ในระหว่างการเพิ่มประเด็นเพื่อปรับแก้มาตรา 9 ของรัฐธรรมนูญญี่ปุ่นเข้าไปในนโยบายที่ทางพรรคจะใช้ในการรณรงค์หาเสียง
ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2490 หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยในส่วนของมาตรา 9 บัญญัติไว้ว่าห้ามญี่ปุ่นแสดงพฤติการณ์แห่งสงครามและมีกองทัพในครอบครอง อย่างไรก็ดี รัฐบาลญี่ปุ่นได้ตีความมาตราดังกล่าวว่าไม่ได้จำกัดหรือสั่งห้ามญี่ปุ่นในประเด็นการครอบครองกองกำลังของประเทศ
ขณะที่เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นายอาเบะได้เสนอให้มีการระบุถึงการมีอยู่ของกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น (SDF) เข้าไปในมาตรา 9 เพื่อให้สถานะของ SDF ที่ปัจจุบันคลุมเครืออยู่มีความชัดเจน ในภาวะที่ภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือกำลังทวีความรุนแรงขึ้น
นอกจากนี้ยังมีประเด็นอื่นๆที่ทางพรรคต้องการแก้ไขในรัฐธรรมนูญ ได้แก่ การเข้าถึงการศึกษาที่เท่าเทียมกัน และความแตกต่างของน้ำหนักคะแนนเสียงในการเลือกตั้งอันเกิดจากความแตกต่างของประชากรในแต่ละพื้นที่
เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฎรของญี่ปุ่นมีมติเห็นชอบให้ลดจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากเขตเลือกตั้ง เพื่อแก้ไขปัญหาความแตกต่างของน้ำหนักการลงคะแนนเสียงระหว่างเขตเลือกตั้งที่มีประชากรเบาบางและหนาแน่น โดยตั้งแต่การเลือกตั้งครั้งต่อไป จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะลดลง 10 คน เหลือ 465 คน
ในการลงมติเพื่อเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ พรรคร่วมรัฐบาลจะต้องกุมคะแนนเสียงข้างมาก 2 ใน 3 ซึ่งเท่ากับว่า พรรคร่วมรัฐบาลจะต้องได้ที่นั่งมากกว่า 233 ที่นั่ง จากทั้งหมด 465 ที่นั่ง จึงจะสามารถโหวตแก้ไขรัฐธรรมนูญได้
ปัจจุบัน สภาผู้แทนราษฎรญี่ปุ่นมีสมาชิกทั้งหมด 475 คน ประกอบด้วยสมาชิกจากพรรค LDP จำนวน 288 คน และพรรคโคไมโตะ 35 คน รวมเป็นฝ่ายรัฐบาล 323 คน ขณะที่ฝ่ายค้านมีทั้งสิ้น 149 คน ในจำนวนนี้เป็นสมาชิกของพรรค DP จำนวน 92 คน หมายเหตุ ตัวเลขเหล่านี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อมีสมาชิกฯลาออกจากตำแหน่ง
ทำความรู้จัก “ความหวัง" จากพรรคการเมืองหน้าใหม่ของผู้ว่าฯกรุงโตเกียว*
ก่อนหน้าที่นายอาเบะจะประกาศยืนยันจัดการเลือกตั้งรอบใหม่ได้เพียงไม่นาน นางยูริโกะ โคอิเกะ ผู้ว่าการกรุงโตเกียว ได้ออกมายอมรับว่า เธอกำลังจัดตั้งพรรคการเมืองระดับประเทศ โดยมีชื่อพรรคว่า “คิโบะ" หรือพรรคความหวัง ในขณะที่มีกระแสข่าวออกมาว่า สมาชิกจากพรรค LDP และพรรค DP จำนวนมากลาออกจากต้นสังกัดเพื่อมาซบอกพรรคใหม่ของเธอ
นางโคอิเกะยืนยันว่า เธอจะดำรงตำแหน่งผู้ว่าการกรุงโตเกียวต่อไป แต่การที่เธอตั้งพรรคระดับประเทศขึ้นมา เพราะเธอต้องการมีส่วนร่วมทางการเมืองระดับประเทศ ซึ่งจะช่วยให้เธอสามารถปฏิรูปกรุงโตเกียวได้อย่างเต็มที่
ผู้ว่าฯกรุงโตเกียวกล่าวว่า เธอจะยึดหลักส่งตัวแทนพรรคลงเลือกตั้งทั่วประเทศ และชูนโยบายสนับสนุนครอบครัว
ทั้งนี้ นางโคอิเกะวัย 65 ปีเป็นอดีตสมาชิกผู้แทนราษฎรในสังกัดพรรค LDP และเคยเป็นรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ก่อนที่เธอจะสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าฯกรุงโตเกียวโดยไม่มีพรรคหนุนหลัง นางโคอิเกะถือเป็นผู้ว่ากรุงโตเกียวหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ ซึ่งได้รับคะแนนเสียงถึง 2.9 ล้านคะแนนในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา
ผลสำรวจล่าสุดชี้ ปชช.ไม่ปลื้ม “อาเบะ" จัดเลือกตั้งใหม่ แต่ส่วนใหญ่ก็ยังเลือก*
ผลสำรวจล่าสุดของสำนักข่าวเกียวโดซึ่งเปิดเผยเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ระบุว่า ชาวญี่ปุ่นที่มีสิทธิลงคะแนนเสียงกว่า 60% ไม่เห็นด้วยที่นายอาเบะจะยุบสภาผู้แทนราษฎรเพื่อจัดการเลือกตั้งใหม่
ทั้งนี้ ผลสำรวจประชาชนญี่ปุ่นในช่วงสุดสัปดาห์ ระบุว่า ผู้ตอบรับการสำรวจถึง 64.3% ไม่เห็นด้วยที่นายอาเบะจะจัดการเลือกตั้งก่อนครบวาระ และมีผู้ตอบรับการสำรวจเพียง 23.7% ที่สนับสนุน
เมื่อถามว่าจะเลือกพรรคใด ผลปรากฎว่า ผู้ตอบแบบสำรวจ 27.0% ระบุจะเลือกพรรค LDP ของนายอาเบะ และอีก 8.0% ระบุว่า จะเลือกพรรค DP พรรคฝ่ายค้าน
ในขณะที่ผู้ตอบแบบสำรวจ 6.2% ตอบว่า จะเลือกพรรคใหม่ของนางยูริโกะ โคอิเกะ ผู้ว่าฯกรุงโตเกียว ส่วนพรรคโคไมโตะ ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลได้คะแนนไปเพียง 4.6%
อย่างไรก็ตาม มีผู้ตอบแบบสำรวจถึง 42.2% ที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่า จะลงคะแนนให้กับพรรคใด
แม้ผลสำรวจดังกล่าวจะบ่งบอกได้ว่าประชาส่วนใหญ่ยังคงเทคะแนนให้กับพรรค LDP ของนายอาเบะ แต่ด้วยความที่พรรคโคไมโตะ ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ได้รับคะแนนนิยมตกต่ำ จึงอาจทำให้สองพรรคร่วมรัฐบาลตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะกุมที่นั่งได้ไม่มากพอที่ลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ในวันพรุ่งนี้สภาผู้แทนราษฎรของญี่ปุ่น หรือสภาล่าง จะประชุมนัดพิเศษ โดยนายอาเบะจะประกาศยุบสภาเพื่อจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่ ซึ่งมีการคาดการณ์อย่างแพร่หลายว่า จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 22 ตุลาคม และเริ่มหาเสียงตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม ซึ่งทางสำนักข่าวอินโฟเควสท์จะเกาะติดและรายงานสถานการณ์การเลือกตั้งญี่ปุ่นครั้งนี้อย่างใกล้ชิด...