In Focusโควิดก็ฉุดไม่อยู่ เมียนมาเดินหน้าจัดเลือกตั้ง 8 พ.ย.

ข่าวต่างประเทศ Wednesday October 14, 2020 13:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เมียนมากำหนดจัดการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 8 พ.ย. 2563 โดยครั้งนี้เป็นการช่วงชิงที่นั่งรวมทั้งสิ้น 1,171 ที่นั่ง ประกอบด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 330 ที่นั่ง และสมาชิกวุฒิสภา 168 ที่นั่ง ขณะที่ในระดับรัฐและระดับท้องถิ่นมี 644 ที่นั่ง และกลุ่มชาติพันธุ์อีก 29 ที่นั่ง โดยพรรคการเมืองที่ลงสมัครรับเลือกตั้งมีมากถึง 97 พรรค แต่มีพรรคที่โดดเด่นอยู่ไม่กี่พรรค ซึ่งรวมถึงพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ของนางอองซาน ซูจี และพรรคสหภาพเพื่อเอกภาพและการพัฒนา (USDP) ของฝ่ายทหาร ขณะที่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในครั้งนี้อยู่ที่ราว 37 ล้านคน

  • บททดสอบ "อองซาน ซูจี"

การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นบททดสอบนางอองซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐคนปัจจุบัน ว่าจะสามารถนำพาพรรค NLD คว้าชัยได้อีกครั้งหรือไม่ หลังจากที่พรรค NLD คว้าเสียงส่วนใหญ่ในสภาในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งก่อนเมื่อเดือนพ.ย. 2558 และได้ทำหน้าที่เป็นรัฐบาลมาตั้งแต่เดือนเม.ย. 2559 โดยมีวาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปี ซึ่งจะสิ้นสุดลงในเดือนมี.ค. 2564

แม้ว่าจะยังคงได้รับความนิยมจากประชาชนชาวเมียนมา แต่นางซูจีก็กำลังเผชิญกับปัญหาท้าทายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2551 ในประเด็นที่อ่อนไหวอย่างการเปลี่ยนรูปแบบการปกครองประเทศจากสหภาพเป็นสหพันธรัฐ และการลดอำนาจของกองทัพในสภา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อกลุ่มองค์กรเอกชนหรือกลุ่มการเมืองภายในประเทศ ขณะเดียวกันยังมีปัญหาอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัวเมื่อเทียบกับสมัยรัฐบาลพล.อ.เต็ง เส่ง

นอกจากนี้ นางซูจียังต้องรับมือกับปัญหาชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่ ที่เดินหน้าจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธเพื่อปกป้องตนเอง รวมถึงความเคลื่อนไหวของชนกลุ่มน้อยกองทัพอาระกัน ซึ่งพยายามจัดตั้งพื้นที่ปกครองตนเองและปะทะกับกองทัพเมียนมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2561 ตลอดจนปัญหาการเจรจาสันติภาพระหว่างรัฐบาลเมียนมากับชนกลุ่มน้อย รวมถึงการแบ่งอำนาจการปกครองระหว่างรัฐบาลกลางกับชนกลุ่มน้อย และล่าสุดคือปัญหาการรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

  • ยอดติดเชื้อโควิดพุ่งพรวด

เมียนมาพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศสองรายแรกเมื่อวันที่ 23 มี.ค. หลังจากนั้นรัฐบาลออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด เช่น การระงับวีซ่าชาวต่างชาติทุกประเทศ การรณรงค์ให้ประชาชนกักตัวอยู่บ้าน การตั้งกรรมการประสานงานกับกลุ่มชาติพันธุ์เพื่อรณรงค์ป้องกันการแพร่ระบาด ฯลฯ ซึ่งระยะแรกดูเหมือนว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ โดยเมียนมาไม่พบผู้ติดเชื้อโควิดติดต่อกันนานหลายสัปดาห์ ก่อนที่จะเกิดการระบาดใหญ่ในรัฐยะไข่เมื่อเดือนส.ค. และเริ่มแพร่กระจายไปทั่วประเทศจนยอดผู้ติดเชื้อพุ่งพรวดแบบหยุดไม่อยู่ โดยทะลุ 1,000 รายในวันที่ 4 ก.ย., 5,000 รายในวันที่ 20 ก.ย., 10,000 รายในวันที่ 27 ก.ย., 15,000 รายในวันที่ 3 ต.ค., 20,000 รายในวันที่ 7 ต.ค. และล่าสุดทะลุ 30,000 รายเป็นที่เรียบร้อย ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตสะสมเกือบแตะ 700 รายแล้ว

บรรดาพรรคการเมืองในเมียนมาเริ่มเปิดฉากหาเสียงเมื่อวันที่ 8 ก.ย. แต่เมื่อสถานการณ์โควิดย่ำแย่ลง พรรค USDP ของฝ่ายทหารและอีกหลายสิบพรรคที่ส่วนใหญ่สนับสนุนกองทัพ ได้ยื่นหนังสือเพื่อให้มีการเลื่อนการเลือกตั้งออกไป โดยให้เหตุผลว่าโควิดเป็นอุปสรรคต่อการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งและอาจส่งผลต่อความปลอดภัยทางสุขภาพ

*เดินหน้าเลือกตั้ง

อย่างไรก็ดี ในวันที่ 21 ก.ย. คณะกรรมการการเลือกตั้งของเมียนมาได้ออกมายืนยันว่าการเลือกตั้งทั่วไปจะยังคงมีขึ้นในวันที่ 8 พ.ย. และจะมีการใช้มาตรการต่าง ๆ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด โดยเตรียมเพิ่มคูหาเลือกตั้งจากเดิม 40,000 แห่ง เป็น 50,000 แห่ง เพื่อรักษาระยะห่างทางสังคม ขณะที่เจ้าหน้าที่ประจำคูหาจะสวมหน้ากากอนามัย และผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งจะต้องล้างมือก่อนเข้าคูหา ด้านพรรค NLD ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล ยืนยันว่าจำเป็นต้องจัดการเลือกตั้งทั่วไปตามกำหนด เพราะเกรงว่าหากเลื่อนออกไปอาจทำให้เกิดความวุ่นวายทางการเมือง ซึ่งจะซ้ำเติมปัญหาสาธารณสุขและเศรษฐกิจ นอกจากนี้ หลายฝ่ายมองว่าหากเกิดความวุ่นวายทางการเมือง กองทัพอาจใช้เป็นเหตุผลในการเข้ามารักษาความสงบเรียบร้อยและจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติขึ้นมารักษาการ และนี่อาจเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้พรรค NLD ยืนกระต่ายขาเดียวว่าจะจัดการเลือกตั้งตามกำหนดเดิม แม้โควิดกำลังระบาดอย่างรุนแรง

พรรค NLD เป็นพรรคการเมืองพลเรือนพรรคแรกที่ขึ้นมามีอำนาจบริหารประเทศ หลังจากที่เมียนมาอยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาลทหารมานานกว่า 50 ปี ถึงกระนั้น กองทัพยังคงมีอำนาจทางการเมืองอยู่ไม่น้อย ทั้งนี้ สภาผู้แทนราษฎรเมียนมาประกอบด้วยสมาชิก 440 คน โดยมาจากการเลือกตั้ง 330 คน และมาจากการคัดเลือกของกองทัพ 110 คน ส่วนวุฒิสภาประกอบด้วยสมาชิก 224 คน โดยมาจากการเลือกตั้ง 168 คน และมาจากการคัดเลือกของกองทัพ 56 คน นั่นหมายความว่าผู้แทนจากกองทัพมีสัดส่วนถึง 1 ใน 4 ของสองสภา ... การเลือกตั้งครั้งนี้จึงเป็นศึกใหญ่อีกครั้งหนึ่งที่พรรค NLD ต้องการให้จบโดยเร็วและไม่ยืดเยื้อ เพื่อเดินหน้าไปสู่การขับเคลื่อนประเทศโดยอิสระอย่างแท้จริง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ