ขณะนี้มาถึงโค้งสุดท้ายแล้วก่อนที่นายโจ ไบเดน จะได้เรียกตัวเองว่าเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอย่างเป็นทางการ หลังจากที่คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งผู้นำประเทศมาเกือบจะ 3 เดือน และเผชิญกับเหตุการณ์วุ่นวายมากมาย กว่าจะได้ทำพิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐในวันนี้
อย่างไรก็ดี พิธีสาบานตนในครั้งนี้จะไม่เหมือนครั้งก่อนๆ ในประวัติศาสตร์ของชาวอเมริกัน เพราะมีปัญหาทางการเมืองมากมาย จนส่งผลให้ภายในกรุงวอชิงตันมีกองกำลังรักษาความปลอดภัยเป็นจำนวนมาก เมื่อเทียบกับโดยปกติทั่วไปที่มักจะเต็มไปด้วยบรรยากาศการเฉลิมฉลองและไมตรีจิตทางการเมือง และถึงแม้จะไม่มีปัญหาการเมืองมาเกี่ยวข้อง การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในสหรัฐ ก็จะทำให้ประชาชนงดร่วมแสดงความยินดีอย่างครื้นเครงเหมือนในปีที่ผ่านๆ มา
*สุนทรพจน์สาบานตนเข้ารับตำแหน่ง
แม้พิธีสาบานตนครั้งนี้จะมีปัญหามากมายจนทำให้ไม่ได้ปฏิบัติตามธรรมเนียมหลายอย่างที่สืบทอดกันมา แต่หัวใจหลักของพิธีสาบานตน ซึ่งก็คือการกล่าวสุนทรพจน์สาบานตนเข้ารับตำแหน่งของนายไบเดน จะมีขึ้นอย่างแน่นอนเพื่อให้เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอย่างเป็นทางการ โดยนายไบเดนจะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในเวลาประมาณ 12.00 น. ของวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือราวๆ เที่ยงคืนของวันนี้ตามเวลาไทย
สิ่งที่นายไบเดนต้องทำคือการกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งมีเนื้อหาว่า "ข้าพเจ้าขอให้คำสัตย์ปฏิญาณว่า ข้าพเจ้าจะบริหารงานในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐด้วยความซื่อสัตย์ และจะพิทักษ์ รักษา และปกป้องรัฐธรรมนูญของสหรัฐอย่างสุดความสามารถ"
เมื่อนายไบเดนกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณที่ว่านี้แล้ว พิธีสาบานตนก็จะสิ้นสุดลง และเขาก็จะกลายเป็นประธานาธิบดีคนที่ 46 ของสหรัฐ
นอกเหนือจากนายไบเดนแล้ว นางคามาลา แฮร์ริส ว่าที่รองปธน.สหรัฐ ก็จะกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณเข้ารับตำแหน่งด้วยเช่นกัน ซึ่งตามปกติทั่วไปแล้วว่าที่รองปธน. จะกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณก่อนว่าที่ปธน.
*มาตรการคุมโควิดเข้มงวด
ตามปกติแล้ว ว่าที่ปธน.ทุกคนของสหรัฐจะเชิญชวนให้ประชาชนแห่มาร่วมพิธีสาบานตนเพื่อประกาศความยิ่งใหญ่ของตนเองให้โลกรู้ แต่ปีนี้ไม่เป็นเช่นนั้นเนื่องจากการระบาดของโควิด-19 โดยในครั้งนี้ คณะกรรมการดูแลพิธีได้ส่งบัตรเชิญเพียงประมาณ 1,000 ใบ จากปกติที่ส่งบัตรเชิญกว่า 200,000 ใบ โดยทางผู้ดูแลพิธีได้ขอให้ประชาชนดูถ่ายทอดสดจากที่บ้านแทน
ภายในพิธีมีการจัดเรียงเก้าอี้ห่างกันตามมาตรการเว้นระยะทางสังคม ส่วนแขกที่เข้าร่วมพิธีก็ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยและต้องแสดงผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นลบด้วย ซึ่งต้องเป็นผลตรวจเมื่อไม่นานมานี้ นอกจากนี้ ยังมีการตั้งรั้วเหล็ก และวางลวดหนาม ซึ่งตรงข้ามกับพิธีสาบานตนในอดีตที่เนืองแน่นไปด้วยประชาชนที่มาร่วมแสดงความยินดีทั้งบริเวณงานและตามท้องถนน นอกจากนี้ ยังจะไม่มีงานเลี้ยงหลังจบงานด้วยเช่นกัน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด
- รักษาความปลอดภัยแน่นหนา คัดกรองเข้มงวดอย่างไม่เคยมีมาก่อน
กองกำลังประจำหน่วยรักษาดินแดนที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลความปลอดภัยในพิธีสาบานตนครั้งนี้มีประมาณ 25,000 คน ซึ่งมากกว่าพิธีครั้งก่อนๆ ถึง 2.5 เท่า โดยทางการสหรัฐกังวลเรื่องความปลอดภัยเป็นพิเศษในพิธีสาบานตนครั้งนี้ หลังจากเกิดเหตุกลุ่มผู้สนับสนุนประธานาธิบดีทรัมป์บุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาเพื่อขัดขวางการประกาศรับรองชัยชนะของนายโจ ไบเดนในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อต้นเดือนนี้
ปกติกองทัพสหรัฐจะตรวจสอบประวัติของสมาชิกกองกำลังนี้เป็นประจำอยู่แล้วเพื่อดูว่ามีความเชื่อมโยงกับกลุ่มหัวรุนแรงหรือไม่ แต่ครั้งนี้ สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) ได้เข้ามาตรวจสอบร่วมด้วย ซึ่งถือว่าเป็นกรณีที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เนื่องจากกังวลว่าจะมีบุคคลภายในสร้างปัญหา
ล่าสุด กระทรวงกลาโหมสหรัฐได้ประกาศถอนสมาชิกหน่วยรักษาดินแดนออกจากหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในพิธีสาบานตนแล้ว 12 ราย ในจำนวนนี้มี 2 รายที่แสดงความคิดเห็นเข้าข่ายคุกคามนักการเมืองผ่านโซเชียลมีเดีย และอีก 1 รายมีท่าทีสนับสนุนปธน.ทรัมป์ ส่วนรายอื่นๆ ที่เหลือถูกถอดถอนออกด้วยเหตุผลอื่นๆ ทั้งการสืบสวนอาชญากรรม ความรุนแรงในครอบครัว หรือถูกร้องเรียน
*ศิลปิน-นักแสดงดังร่วมปรากฏตัว ทำ "ทรัมป์" อารมณ์เสีย
หากจะพูดถึงสิ่งที่เหมือนกันกับพิธีครั้งก่อนๆ หนึ่งในนั้นก็น่าจะเป็นการปรากฏตัวของคนดังในพิธีสาบานตน โดยครั้งนี้ เลดี กาก้า นักร้องชื่อดังที่ออกตัวสนับสนุนนายไบเดนมาตลอดนั้น จะร่วมร้องเพลงชาติเพื่อเฉลิมฉลองการสาบานตนของนายไบเดน นอกจากนี้ เจนนิเฟอร์ โลเปซ ก็จะเปิดการแสดงดนตรีเนื่องในโอกาสนี้ด้วยเช่นกัน
นอกเหนือจากเลดี กาก้า และเจนนิเฟอร์ โลเปซ แล้วยังมีศิลปินดังรายอื่นๆ ที่จะทำการแสดงดนตรีอีกมากมายจากจุดต่างๆ ทั่วสหรัฐ ทั้งจัสติน ทิมเบอร์เลค, บอน โจวี, เดมี โลวาโต และวงฟูไฟเตอส์ ศิลปินเหล่านี้จะร่วมแสดงในรายการพิเศษชื่อ "Celebrating America" โดยมีนักแสดงชื่อดังอย่างทอม แฮงส์ เป็นพิธีกรตลอดระยะเวลา 90 นาทีของรายการที่จะเป็นการปิดฉากวันสาบานตน ซึ่งจะเริ่มออกอากาศทางโทรทัศน์ตั้งแต่เวลา 20.30 น. ของวันที่ 20 ม.ค. ตามเวลาสหรัฐ หรือ 8.30 น. วันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้ปธน.ทรัมป์ ไม่พอใจอย่างยิ่ง โดยหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานว่า ปธน.ทรัมป์ ไม่พอใจที่ศิลปินระดับแถวหน้าต่างตอบตกลงที่จะจัดการแสดงให้นายไบเดน
รายงานข่าวระบุว่า สาเหตุที่ปธน.ทรัมป์ไม่พอใจนั้นเป็นเพราะสมัยที่เขาเข้าพิธีสาบานตน ศิลปินส่วนใหญ่ที่ได้รับเชิญให้ทำการแสดงนั้นต่างปฏิเสธคำเชิญเข้าร่วม ทั้งๆ ที่ตัวปธน.ทรัมป์เองก็อยู่ในแวดวงที่ทำให้เขาได้รู้จักคนดังทั่วประเทศอยู่แล้ว โดยศิลปินและคนดังที่ปฏิเสธคำเชิญนั้นมีทั้งเอลตัน จอห์น, เซลีน ดิออน, อันเดรอา โบเชลลี, รีเบคกา เฟอร์กูสัน และการ์ธ บรูคส์ โดยการ์ธ บรูคส์ นั้นเป็นหนึ่งในศิลปินที่ร่วมจัดการแสดงในรายการพิเศษต้อนรับการสาบานตนของนายไบเดนด้วย
*ส่อง "ทรัมป์" ในวันสุดท้ายของการเป็นประธานาธิบดี
ล่าสุด ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้อวยพรให้คณะทำงานของนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ประสบความสำเร็จในระหว่างกล่าวสุนทรพจน์อำลาตำแหน่งทางวิดีโอ ซึ่งเป็นการแสดงไมตรีต่อประธานาธิบดีคนต่อไปที่น้อยครั้งจะได้เห็น เพราะที่ผ่านมานั้นปธน.ทรัมป์ ได้แสดงท่าทีต่อต้านนายไบเดนมาตลอด โดยปธน.ทรัมป์ไม่เคยยอมรับความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งเมื่อเดือนพ.ย. และยังอ้างว่าการที่เขาพ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีเพราะมีการโกงการเลือกตั้ง
"สัปดาห์นี้ เราจะมีการแต่งตั้งคณะบริหารชุดใหม่ เราขออวยพรให้พวกเขาประสบความสำเร็จในการนำพาอเมริกาไปสู่ความรุ่งโรจน์และปลอดภัย เราขอส่งความปรารถนาดี และขออวยพรให้คณะบริหารชุดใหม่จงโชคดี นั่นคือสิ่งสำคัญมาก" ปธน.ทรัมป์กล่าวไว้ในสุนทรพจน์ที่ทำเนียบขาวบันทึกไว้ อย่างไรก็ดี เขาไม่ได้เอ่ยชื่อนายโจ ไบเดน
ด้านทำเนียบขาวได้เผยแพร่กำหนดการของปธน.ทรัมป์ ในวันที่ 20 ม.ค. ออกมาแล้ว แต่มีเนื้อหาเพียงแค่ว่า ปธน.ทรัมป์ และนางเมลาเนีย ทรัมป์ สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง จะเดินทางออกจากทำเนียบขาวเวลา 8.00 น. ตามเวลาสหรัฐ หรือ 20.00 น. ตามเวลาไทย แต่ไม่ได้มีการเอ่ยถึงพิธีอำลาตำแหน่งซึ่งคาดกันว่าจะมีขึ้นไม่นานหลังจากที่ปธน.ทรัมป์ เดินทางออกจากทำเนียบขาว
รายงานข่าวระบุว่า พิธีอำลาตำแหน่งดังกล่าวจะมีขึ้นเวลา 8.00 น. ตามเวลาสหรัฐ ที่ฐานทัพอากาศร่วมแอนดรูว์สในแมรีแลนด์ ใกล้กับกรุงวอชิงตัน ซึ่งภายในพิธีนี้ ปธน.ทรัมป์จะออกเดินทางโดยเครื่องบินแอร์ ฟอร์ซ วัน เป็นครั้งสุดท้ายไปยังรีสอร์ทมาร์-อา-ลาโกของเขาในรัฐฟลอริดา ซึ่งหมายความว่า ปธน.ทรัมป์ จะไม่เข้าร่วมพิธีสาบานตนของนายไบเดนที่กรุงวอชิงตัน โดยแผนการดังกล่าวของทรัมป์เป็นไปเพื่อต้องการดึงความสนใจของประชาชนจากพิธีรับตำแหน่งของนายไบเดน
ปธน.ทรัมป์ จะเป็นประธานาธิบดีคนแรกนับตั้งแต่อดีตประธานาธิบดีแอนดรูว์ จอห์นสัน ที่ตัดสินใจไม่เข้าร่วมพิธีสาบานตนของปธน.คนถัดไป โดยกรณีของอดีตปธน.จอห์นสันนั้นเกิดขึ้นเมื่อ 152 ปีที่แล้ว
นอกจากนี้ สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า พิธีอำลาตำแหน่งของปธน.ทรัมป์ อาจมีผู้ร่วมพิธีไม่มากนัก เพราะผู้ที่ได้รับบัตรเชิญหลายรายปฏิเสธที่จะเข้าร่วม โดยส่วนหนึ่งไม่พอใจทรัมป์จากเหตุม็อบบุกอาคารรัฐสภา ขณะที่รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ก็จะไม่เข้าร่วมด้วยเช่นกัน เพราะเขาต้องเข้าร่วมพิธีสาบานตนของนายไบเดน
ทั้งนี้ พิธีสาบานตนของนายไบเดนจะเริ่มตั้งแต่เวลาประมาณ 11.30 น. ตามเวลาสหรัฐ หรือเวลา 23.30 น. ตามเวลาไทย โดยปธน.ทรัมป์ จะหมดวาระอย่างเป็นทางการในเวลา 12.00 น.ตามเวลาสหรัฐ