นอกจากนี้ นักลงทุนรอผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) (ประชุม 15-16 มี.ค.) ที่จะทราบผลในวันพุธนี้ ระหว่างนี้นักลงทุนจึงเลือกขายเพื่อรอทิศทางและผลประชุม FED เพราะหาก FED ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็จะเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นเอเชีย เนื่องจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมาดี โดยตลาดคาด ว่า FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครึ่งหลังปีนี้ ประมาณ 1-2 ครั้ง แต่รอบนี้ยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ย
พรุ่งนี้ตลาดน่าจะแกว่งตัวในกรอบแคบ ให้แนวรับที่ 885 และ 880 จุด แนวต้านที่ 898-900 และ 910 จุด แต่หาก หลุดระดบ 880 จุด เป็นสัญญาณปรับลงต่อเนื่อง
ส่วนราคาทองคำ ในระยะสั้นกังวลผลการประชุม FOMC ทำให้มีแรงขายออกมา และมีแนวโน้มเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า ยิ่งกดดันราคาทองคำ แต่ระยะกลาง ทองคำค่อนข้างแพงน้อยกว่าพันธบัตรที่ปรับตัวลงจากการที่รัฐบาลประเทศต่างๆใช้มาตรการ QE ทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรลดลง ในระยะสั้นแกว่งตัว sideway ให้แนวรับที่ 1,220 , 1,210 เหรียญ/ออนซ์ แนวต้านที่ 1,260 เหรียญ/ออนซ์ อย่างไรก็ตามค่าเงินบาทจะกลับค่ามาอ่อนตัวได้ ถ้ามีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ดัชนี SET 50 ปิดวันนี้ที่ระดับ 889.12 จุด ลดลง 10.42 จุด, -1.16%
ปริมาณ สถานะคงค้าง Total Market 223,735 1,156,049 Total Futures 222,877 1,130,441 SET50 Index 118,933 306,377 Sector Index - - Single Stock 83,464 778,636 Precious Metal 20,208 28,269 -GF10 19,246 26,123 -GF50 962 2,146 Curency 142 16,712 Energy 126 438 Interest Rate - - Agriculture 4 9 Total Options 858 25,608 Call 342 10,009 Put 516 15,599 สรุปปริมาณการซื้อขายตามกลุ่มผู้ลงทุน นักลงทุนสถาบัน นักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนภายในประเทศ Futures -24,248 -456 +24,704 Options -34 -40 +74