น.ส.ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า การซื้อขาย SET 50 Index Futures วันนี้ปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไร หลังบริษัทจดทะเบียนทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/60 ออก มาเกือบหมดแล้ว และยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆเข้ามาหนุนตลาด ประกอบกับ เกิดเหตุลอบวางระเบิดห้างบิ๊กซีใน อ.เมือง จ.ปัตตานี ใน ช่วงบ่ายนี้เป็นปัจจัยกดดันช่วงท้ายตลาด
ทั้งนี้ ยังคงต้องติดตามการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ของสหรัฐ ทั้งตัวเลขการค้าปลีก ตัวเลขเงินเฟ้อ และตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภค โดยเชื่อว่าตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆของสหรัฐจะออกมาดีขึ้น ซึ่ง ในระยะ 1-2 วันนี้ มีแนวโน้มที่เงินทุนต่างชาติจะไหลกลับไปยังสหรัฐ ส่งผลให้การปรับขึ้นจะอยู่ในกรอบค่อนข้างจำกัด
แนวโน้มในวันที่ 11 พ.ค.นี้ คาดว่า ตลาดน่าจะแกว่งตัวอยู่ในกรอบ ให้แนวต้านไว้ที่ 1,000 จุด ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 990 จุด โดยแนะนำว่าหากดัชนีขึ้นไปทดสอบแนวต้าน มองเป็นจังหวะเปิด Short
ขณะที่บทวิเคราะห์ของ บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส ระบุว่าวันนี้วันนี้ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบ 1,224-1,228 ดอลลาร์/ออนซ์ นักลงทุนลดแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหลังจากนายเอ็มมานูเอล มาครอง ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดี ฝรั่งเศส แต่มีปัจจัยหนุนเข้ามาบ้างจากข้อมูลจาก GFMS ระบุว่า การนำเข้าทองของอินเดียเดือน เม.ย.เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าจากช่วง เดียวกันของปีที่แล้วสู่ระดับ 75 ตัน เนื่องจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในช่วงเทศกาลที่กระตุ้นแรงซื้อ และผู้ผลิตเครื่องประดับกักตุนทองไว้ ก่อนการเก็บภาษีการขายใหม่
คืนนี้ติดตามการแถลงของประธานเฟดสาขามินนิอาโปลิส สาขาบอสตัน และสาขาดัลลัส คาดว่าจะสนับสนุนให้เฟดเดิน หน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเช่นกันไม่ต่างจากประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์และสาขาคลีฟแลนด์ที่แถลงเมื่อวานนี้ หลังจากตัวเลขการจ้าง งานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือน เม.ย.ที่ออกมาแข็งแกร่ง ยิ่งเพิ่มน้ำหนักว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย. นอกจากนี้สหรัฐจะเปิดเผยจำนวนตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัครเดือน มี.ค.ซึ่งตลาดคาดจะลดลงเหลือ 5.67 ล้านตำแหน่ง จาก 5.74 ล้านตำแหน่งในเดือน ก.พ.
แนวโน้มราคาทองคำคาดยังเคลื่อนไหวในกรอบ 1,220-1,240 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยมีแนวรับระยะสั้นที่ 1,220 ดอลลาร์/ออนซ์ หากหลุดแนวรับดังกล่าวจะมีแนวรับถัดไปที่ 1,200 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 1,240 ดอลลาร์/ออนซ์ และ แนวต้านสำคัญที่ 1,250 ดอลลาร์/ออนซ์ กลยุทธ์การลงทุน แนะนำซื้อขายตามกรอบ โดยการเข้าซื้อเก็งกำไรการฟื้นตัวแนะนำที่ 1,220 และ 1,210 ดอลลาร์ และมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,200 ดอลลาร์ แนะนำเปิดสถานะขายที่ 1,240 และ 1,250 ดอลลาร์ และมีจุดขายตัดขาดทุนฝั่งขายที่ 1,260 ดอลลาร์
ดัชนี SET50 ปิดวันนี้ที่ระดับ 993.46 จุด ลดลง 3.10 จุด, -0.31%
ปริมาณ สถานะคงค้าง Total Market 324,749 2,188,167 Total Futures 320,958 2,139,425 SET50 Index 87,434 351,799 Sector Index - - Single Stock 226,631 1,731,402 Precious Metal 5,741 32,161 - GF10 5,553 30,097 - GF50 188 2,142 Currency 1,146 23,983 Interest Rate - - Agriculture 6 80 Total Options 3,791 48,742 Call 1,969 19,520 Put 1,822 29,222 สรุปปริมาณการซื้อขายตามกลุ่มผู้ลงทุน นักลงทุนสถาบัน นักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนภายในประเทศ Futures +7,136 +2,014 -9,150 Options -84 +1,169 -1,085