บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ระบุว่า สภาวะตลาดวันนี้ ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,331.80-1,338.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,150 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,100 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG18 อยู่ที่ 20,250 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 40 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,210 บาท
ส่วนแนวโน้มในวันพรุ่งนี้ มองว่าสภาครองเกรสของสหรัฐ บรรลุข้อตกลงโดยมีมติผ่านร่างงบประมาณแล้ว จนหน่วยงาน รัฐบาลสหรัฐสามารถกลับมาเปิดทำการได้อีกครั้ง โดยปัจจัยดังกล่าวไม่ได้กดดันราคาทองคำมากนัก เพราะดัชนีดอลลาร์ไม่ได้แข็งค่า ขึ้นมากและยังคงเคลื่อนไหวใกล้จุดต่ำสุดรอบ 3 ปี ที่ระดับ 90.113 ที่ทำไว้เมื่อวันที่ 17 ม.ค. ขณะที่ธนาคารกลางสำคัญอื่น ๆ กำลังเข้าใกล้การปรับนโยบายสู่ภาวะปกติมากขึ้น ซึ่งยังเป็นปัจจัยกดดันดอลลาร์ เห็นได้จากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงเป้า หมายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ -0.1% ตามคาด และยืนยันที่จะชี้นำผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีที่ราว 0% ด้วยมติ 8 ต่อ 1 เสียง แต่ BOJ เสนอทัศนะในเชิงบวกมากกว่าเมื่อสามเดือนก่อน โดยส่งสัญญาณความเชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งจะค่อยๆ นำ การขยายตัวด้านราคาไปสู่เป้าหมายเงินเฟ้อ 2% ท่าทีดังกล่าวกระตุ้นสกุลเงินเยนแข็งค่าขึ้นต่อจนกดดันดอลลาร์เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำในประเทศได้รับแรงกดดัน จากค่าเงินบาทต่อดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าต่อเนื่องใกล้ระดับแข็ง ค่ามากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 28 ส.ค.57 ซึ่งส่งผลลบต่อราคาทองคำในประเทศ เบื้องต้นยังคงให้จับตาราคาทองคำบริเวณ 1,344- 1,358 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคายังไม่สามารถยืนเหนือโซนนี้ คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะอ่อนตัวลงมาบริเวณ 1,327-1,324 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,344 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1,358 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นจะยังมี แรงขายทำกำไรออกมา จึงแนะนำให้นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้ขายทำกำไรบางส่วนออกมาบ้าง สำหรับการทำกำไร ให้ดูว่าราคาจะ ผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้แนะนำให้ถือต่อเพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไป และหากราคาทองคำมีการปรับตัว ลดลงมาไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สามารถเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้น ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,327-1,324 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,315-1,303 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ดัชนี SET50 ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,192.74 จุด เพิ่มขึ้น 6.96 จุด,+0.59%
ปริมาณ สถานะคงค้าง Total Market 416,784 3,323,090 Total Futures 410,642 3,253,537 SET50 Index 149,652 334,206 Sector Index - - Single Stock 254,466 2,826,691 Precious Metal 4,805 66,320 - GF10 4,516 62,680 - GF50 289 3,640 Deferred Precious Metal 300 958 - GOLD-D 300 958 Currency 1,411 24,824 Interest Rate - - Agriculture 8 538 Total Options 6,142 69,553 Call 2,780 33,537 Put 3,362 36,016 สรุปปริมาณการซื้อขายตามกลุ่มผู้ลงทุน นักลงทุนสถาบัน นักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนภายในประเทศ Futures -17,836 -9,321 +27,157 Options -39 +297 -258