นางสาวชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า การซื้อขาย SET50 Index Futures ในวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ รับปัจจัยหนุนความคาดหวังการเจรจาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่อาจจะสามารถมีการเจรจาข้อตกลงกันได้ หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯได้มีการทวีตออกมา คาดว่าจะมีการ เจรจากันในช่วงปลายเดือน พ.ย.นี้ ซึ่งเป้นการเจรจากันนอกรอบการประชุม G20
ปัจจัยหนุนดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนคลายความกังวลลงเกี่ยวกับประเด็นสงครามการค้า ทำให้มีการโยกย้ายเงินกลับ เข้ามาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะตลาดหุ้น ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นขานรับปัจจัยดังกล่าว รวมถึงตลาดหุ้นไทย ด้วย ประกอบกับในช่วงนี้ได้รับแรงหนุนของนักลงทุนสถาบันที่เข้ามาซื้อเป้นจำนวนมาก ซึ่งเป็นอีกแรงหนุนที่ทำให้ตลาดปรับตัวขึ้น ใน ขณะที่นักลงทุนต่างชาติชะลอการขายลงไปค่อนข้างมากแล้ว
แนวโน้มในสัปดาห์หน้าคาดว่ายังมีโอกาสที่ดัชนีจะสามารถแกว่งตัวขึ้นได้ต่อ หลังนักลงทุนคลายความกังวลประเด็น สงครามการค้า ทำให้เข้ามาเก็งกำไรในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น จากก่อนหน้าที่เงินทุนไหลเข้าไปซื้อเงินดอลลาร์สหรัฐฯเป็นจำนวน มาก อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามปัจจัยการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯในสัปดาห์หน้าว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร
ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศยังคงเป็นการประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/61 ของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งในสัปดาห์ หน้าจะมีงบการเงินของกลุ่มพลังงานประกาศออกมา
กลยุทธ์การลงทุนในสัปดาห์หน้ามองว่ายังเป็นโอกาสในการเข้าเก็งกำไรทางฝั่ง long ได้ จาก Momentum และ Sentiment ภายนอกที่หนุนต่อการปรับตัวขึ้นของตลาด โดยให้แนวต้าน 1,120-1,125 จุด แนวรับ 1,105-1,110 จุด
ด้านราคาทองคำในวันนี้ได้รีบาวด์กลับขึ้นมาบริเวณ 1,230 เหรียญสหรัฐฯ/ออนซ์ หลังจากลงไปที่ระดับ 1,210- 1,215 เหรียญสหรัฐฯ/ออนซ์ โดยการดีดกลับขึ้นมาในวันนี้เป็นผลมาจากการความคลายกังวลสงครามการค้า ทำให้เงินทุนไหลออก จากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯมาที่สินทรัพย์เสี่ยงและทองคำ ทำให้ค่าเงินสหรัฐฯอ่อนค่าลง ขณะเดียวกันกองทุน SPDR ได้กลับมา ซื้อสะสมทองคำในสัปดาห์นี้รวม 6.76 ตัน ซึ่งเป้นสัญญาณบวกต่อทิศทางทองคำในระยะต่อไป ซึ่งมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อได้
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าแนวโน้มทองคำจะมีทิศทางที่ดี แต่ยังมีปัจจัยที่ต้องติดตามเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งกลางเทอมของ สหรัฐฯในสัปดาห์หน้า รวมถึงการเจรจา Brexit ระหว่างอังกฤษและสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำได้ โดยให้กรอบราคาทองคำแนวต้านที่ 1,240-1,250 เหรียญสหรัฐฯ/ออนซ์ แนวรับ 1,215-1,225 เหรียญสหรัฐฯ/ออนซ์
ดัชนี SET50 ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,109.70 จุด เพิ่มขึ้น 14.29 จุด, +0.86%
ปริมาณ สถานะคงค้าง Total Market 339,459 2,827,491 Total Futures 334,463 2,780,460 SET50 Index 189,736 286,356 Sector Index - - Single Stock 127,627 2,428,168 Precious Metal 14,676 46,355 - GF10 14,389 43,130 - GF50 287 3,225 Deferred Precious Metal 100 438 - GOLD-D 100 438 Currency 2,324 18,989 Interest Rate - - Agriculture - 154 Total Options 4,996 47,031 Call 2,467 25,918 Put 2,529 21,113 สรุปปริมาณการซื้อขายตามกลุ่มผู้ลงทุน นักลงทุนสถาบัน นักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนภายในประเทศ Futures -10,267 +2,545 +7,722 Options -187 +58 +129