นางสาวชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า การซื้อขาย SET50 Index Futures วันนี้ แกว่งตัวแดนบวกและลบในกรอบแคบ ช่วงรอปัจจัยใหม่เข้ามาผลักดัน หลังจากที่ปัจจัยภายนอกยังอิงทางลบจากความกังวล สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐที่ดูอ่อนแอ ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ยังไม่ สดใส กดดันต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงทั้งในตลาดสหรัฐ ยุโรป และภูมิภาค
อย่างไรก็ตามสำหรับตลาดหุ้นไทยแม้ว่าจะได้รับ Sentiment เชิงลบตั้งแต่การลงทุนเมื่อวานนี้และต่อเนื่องในวันนี้ทำให้ S50U19 ปรับลงมาทดสอบแนวรับ 1,132 จุด ก่อนจะดีดกลับได้เล็กน้อยและเริ่มยืนทรงตัวจากราคาปิดเมื่อวานนี้ หลังได้แรงหนุนจากการ เมืองที่ชัดเจน และรอรัฐบาลแถลงนโยบายในสัปดาห์หน้า โดยตลาดมีความคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะมีเข้ามาเพิ่มเติม หนุน ให้มีแรงเก็งกำไรหุ้นที่จะได้รับประโยชน์จากมาตรการต่าง ๆ ที่รัฐบาลจะผลักดันออกมา
นอกจากนี้ยังมีแรงเก็งกำไรหุ้นรายตัวจากเรื่องผลประกอบการไตรมาส 2/62 ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.)ที่จะเริ่มทยอย ออกมา ยกเว้นในกลุ่มแบงก์ที่ผลประกอบการอาจไม่โดดเด่นมากนัก รวมถึงน่าจะยังมีแรงซื้อจากต่างชาติเข้ามาช่วยผลักดันให้ตลาดปรับขึ้น ได้ ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ออกมาตรการสกัดการเก็งกำไรค่าเงินบาทช่วงสั้นแม้จะทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง แต่ก็ไม่น่า จะกระทบต่อเงินไหลเข้าในตลาดทุนมากนัก เพราะยังเห็นแรงซื้อเข้ามาแม้ว่าจะแผ่วลงจากช่วงก่อนหน้านี้ก็ตาม แต่ก็ยังนับว่าเป็นแรงซื้อที่ เข้ามาต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ภาพเศรษฐกิจโลกที่ยังดูไม่สดใส และความกังวลจากสงครามการค้า ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคาร กลางยุโรป (ECB) จะยังคงดำเนินนโยบายเชิงผ่อนคลายซึ่งจะเป็นแรงหนุนให้มีเม็ดเงินไหลเข้าอยู่ แม้ว่าจะไม่รุนแรงมากนัก ทำให้ภาพ ตลาดอาจจะพักตัวระยะสั้นบ้างแต่ก็ยังมีแนวโน้มขาขึ้น
การปรับลดลงของ S50U19 มาที่แนวรับ 1,132 จุด แล้วดีดตัวขึ้นได้ ทำให้ยังคงเป็นบริเวณแนวรับที่ทำงานได้ดี ทำให้ภาพ ในวันพรุ่งนี้อาจจะยังคงผันผวนในกรอบที่ไม่กว้างมาก มีแนวรับบริเวณ 1,132 จุด และแนวต้านที่ 1,143 จุด
ส่วนทิศทางราคาทองคำ ยังเป็นภาพการแกว่งตัวในกรอบรีบาวด์กลับขึ้นมา หลังจากลงมาทดสอบระดับ 1,400 เหรียญสหรัฐ/ ออนซ์ โดยยังมีแรงหนุนจากการไหลเข้าของเม็ดเงินไปยังสินทรัพย์ปลอดภัย จากความกังวลเรื่องสงครามการค้าที่สะท้อนมายังตัวเลข เศรษฐกิจทั้งสหรัฐและยุโรปที่ยังไม่สดใส ทำให้ทั้งเฟดและ ECB อาจจะมีมาตรการเพิ่มเติมทั้งการลดดอกเบี้ย หรือการดำเนินนโยบายผ่อน คลายเชิงปริมาณ (QE) ซึ่งจะเป็นปัจจัยผลักดันทองคำให้ปรับตัวขึ้น
อย่างไรก็ตามยังต้องจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐต่อเนื่อง โดยในคืนนี้จะมีตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน และดัชนีการผลิตเดือนก.ค. หากออกมาไม่สดใส จะกดดันให้ดอลลาร์อ่อนค่า หนุนราคาทองคำให้รีบาวด์ขึ้นมาระดับสูงเดิมที่ 1,440 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ในช่วงสั้น ขณะที่ตลาดยังรอดูการประชุมเฟดที่จะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนก.ค.นี้ด้วยว่าจะลดดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาดการณ์ หรือไม่ หรือจะลดในอัตรามากน้อยแค่ไหน รวมถึงการส่งสัญญาณถึงภาวะเศรษฐกิจในระยะต่อไปด้วย ขณะที่ยังมีแรงซื้อจากกองทุน SPDR เข้ามาเมื่อวานนี้ 3.8 ตัน ทำให้ทองคำยังมีลุ้นรีบาวด์ในกรอบ 1,440 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ โดยมีแนวรับที่บริเวณ 1,407 เหรียญสหรัฐ/ ออนซ์
ดัชนี SET50 ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,140.37 จุด เพิ่มขึ้น 1.61 จุด, +0.14%
ปริมาณ สถานะคงค้าง Total Market 412,644 3,453,537 Total Futures 408,783 3,398,840 SET50 Index 127,616 373,640 Sector Index - - Single Stock 236,172 2,923,093 Precious Metal 44,153 70,397 - GF10 18,520 37,219 - GF50 751 2,812 - Gold Online 24,882 30,366 Deferred Precious Metal 23 24 - GOLD-D 23 24 Currency 575 31,590 Interest Rate - - Agriculture 244 96 Total Options 3,861 54,697 Call 1,941 23,556 Put 1,920 31,141 สรุปปริมาณการซื้อขายตามกลุ่มผู้ลงทุน นักลงทุนสถาบัน นักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนภายในประเทศ Futures +12,180 +9,058 -21,238 Options +21 +37 -58