นางสาวชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า การซื้อขาย SET50 Index Futures วันนี้ ร่วงลงและผันผวนตามประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยดัชนีร่วงลงแรงในภาคเช้าตามทิศทางตลาดหุ้นต่าง ประเทศ จากความกังวลว่าสงครามการค้าจะทวีความรุนแรงมากขึ้น หลังทั้งสองฝ่ายประกาศใช้มาตรการภาษีเพิ่มขึ้นในการตอบโต้ระหว่าง กัน กดดันให้มีแรงขายในตลาดหุ้นทั่วโลก และราคาสินทรัพย์เสี่ยงปรับลดลง อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นไทยลดช่วงลบลงในภาคบ่าย หลังจากที่มี ข่าวว่าทั้งสองฝ่ายอาจจะกลับมาเจรจากันรอบใหม่ก่อนที่จะถึงกำหนดการขึ้นภาษีนำเข้าของทั้งสองประเทศ ส่งผลให้ตลาดแกว่งตัวผันผวน โดยดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์สพลิกกลับมาอยู่ในแดนบวก จากที่ติดลบในช่วงเช้า และตลาดหุ้นยุโรป เปิดตัวในแดนลบ
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมตลาดหุ้นทั่วโลกในวันนี้ยังคงเคลื่อนไหวในแดนลบ จากการที่นักลงทุนยังคงจับตาประเด็นสงครามการ ค้าอย่างใกล้ชิดว่าจะมีแนวทางเป็นบวกหรือไม่ในการที่ทั้งจีนและสหรัฐจะกลับมาเจรจากันอีกรอบ ทำให้อาจจะเห็นการรีบาวด์ของดัชนีได้ บ้างหลังจากที่ดัชนีปรับลงไปเร็วและแรง ขณะที่ยังคงมีแรงซื้อหุ้นในกลุ่ม defensive อย่างกลุ่มไฟฟ้า และหุ้นที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์ จากการมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ที่คาดว่าจะมีขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มภาคการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับเงื่อนไขของสำนักงานคณะกรรมการ ส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)
ส่วนแนวโน้มการซื้อขายวันพรุ่งนี้ ยังต้องติดตามการตอบรับของตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปในคืนนี้ ต่อประเด็นโอกาสการเจรจา การค้ารอบใหม่ของสหรัฐและจีน จะผลักดันให้ตลาดรีบาวด์ได้หรือไม่ ท่ามกลางความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกทำให้ธนาคารกลางหลาย แห่งยังคงใช้นโยบายการเงินผ่อนคลาย และประเทศขนาดใหญ่ยังคงใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างจีนก็ยังต้องจับตาว่าจะมีมาตรการใด ออกมาเพิ่มเติม ทำให้ส่วนหนึ่งยังเป็นปัจจัยที่ช่วยประคอง downside ของตลาด แม้มองว่าตลาดน่าจะยังคงมีความผันผวน โดย S50U19 ก็มีลุ้นรีบาวด์กลับ แต่ก็ยังไม่น่าผ่านแนวต้านที่ 1,070 และ 1,075 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,060 และ 1,055 จุด ซึ่งนักลงทุนยังต้องจับตา ประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอย่างใกล้ชิด
ด้านราคาทองคำ ยังคงผันผวนเช่นเดียวกัน หลังจากทำนิวไฮในรอบปีทะลุผ่าน 1,550 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ไปได้ มาที่ระดับ 1,555 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ ก็เริ่มมีแรงขายทำกำไรมาแกว่งตัวบริเวณ 1,530 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ โดยมองการปรับลดลงของราคา ทองคำเป็นการพักและย่อตัวสลับลงมาเท่านั้น ซึ่งจะยังอยู่ในกรอบจำกัด ทำให้มองโอกาสการเข้าสะสมที่บริเวณ 1,525 หรือ 1,510 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ เพื่อการลงทุนในระยะกลาง ขณะที่ราคาทองคำยังจะมีแรงหนุนจากประเด็นสงครามการค้าที่ยังมีความไม่แน่นอน กดดัน ให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าอีกรอบ และตลาดยังคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) น่าจะลดดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนก.ย. ท่ามกลางเม็ดเงิน ที่ยังไหลเข้าทองคำอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดกองทุน SPDR ยังคงเข้าซื้อทองคำต่อเนื่อง โดยในเดือนส.ค. เข้าซื้อมาแล้ว 36 ตัน
ดัชนี SET50 ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,071.74 จุด ลดลง 16.95 จุด, -1.56%
ปริมาณ สถานะคงค้าง Total Market 572,819 3,141,287 Total Futures 559,119 3,063,015 SET50 Index 274,148 315,861 Sector Index - - Single Stock 196,860 2,638,239 Precious Metal 83,166 81,736 - GF10 34,549 47,895 - GF50 1,656 2,676 - Gold Online 46,961 31,165 Deferred Precious Metal 645 435 - GOLD-D 645 435 Currency 4,052 26,672 Interest Rate - - Agriculture 248 72 Total Options 13,700 78,272 Call 7,621 46,110 Put 6,079 32,162 สรุปปริมาณการซื้อขายตามกลุ่มผู้ลงทุน นักลงทุนสถาบัน นักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนภายในประเทศ Futures +26,860 -9,287 -17,573 Options -432 +103 +329