นางสาวชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า การซื้อขาย SET50 Index Futures วันนี้ แกว่งตัวผันผวนก่อนปรับลดลง หลังจากในช่วงเช้าดัชนีปรับตัวขึ้นได้บ้างจาก Sentiment การลงทุนภายนอก จากความ คาดหวังการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และพันธมิตร ที่มีขึ้นในวันที่ 5-6 ธ.ค.นี้อาจจะลดกำลังการผลิตน้ำมันมากกว่า คาดการณ์
นอกจากนี้ยังมีความคืบหน้าเชิงบวกจากประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังมีข่าวว่าจีนกำลังดำเนินการเกี่ยวกับ การยกเว้นภาษีถั่วเหลืองและเนื้อหมูบางส่วนที่นำเข้าจากสหรัฐ ทำให้ตลาดมีความคาดหวังต่อการที่ทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงการค้าได้ หรือไม่ ก่อนวันที่ 15 ธ.ค.นี้ที่สหรัฐมีกำหนดการจะเก็บภาษีรอบใหม่สำหรับสินค้านำเข้าจากจีน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายตลาดได้รับปัจจัยลบเข้ามา จากการที่คณะกรรมการค่าจ้าง มีมติให้ปรับขึ้นค่าจ้างปี 63 ทั่วประเทศ ในอัตรา 5-6 บาท ซึ่งจะกระทบต่อต้นทุนธุรกิจ ทำให้กดดันต่อการฟื้นตัวของตลาดแม้ว่าจะมีปัจจัยบวกจากภายนอกเข้ามาก็ตาม นอกจากนี้ ตลาดยังกังวลต่อกระแสข่าวว่าทางการจะพิจารณาควบคุมค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งกระทบต่อการลงทุนในหุ้นกลุ่ม แบงก์ด้วย
ขณะที่ตลาดยังรอดูตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่จะออกมาในคืนนี้ โดยเฉพาะตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร แม้ตลาดจะคาด การณ์ว่าการจ้างงานจะเพิ่มขึ้น แต่ก็ต้องรอดูว่าข้อมูลที่ออกมาจะดีเหมือนที่คาดหรือไม่และตลาดจะตอบรับอย่างไร ประกอบกับในสัปดาห์หน้า ตลาดจะหยุดทำการอีก 1 วันในวันที่ 10 ธ.ค. ซึ่งเป็นวันรัฐธรรมนูญ ก็ทำให้นักลงทุนบางส่วนชะลอการลงทุน เพื่อรอดูปัจจัยภายนอกที่จะ เข้ามาทั้งในส่วนของสงครามการค้า และตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐ รวมถึงความคืบหน้าต่อประเด็นการแยกตัวของอังกฤษออกจาก สหภาพยุโรป (Brexit) หลังอังกฤษจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 12 ธ.ค.นี้ ตลอดจนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคาร กลางยุโรป (ECB) ในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ มองว่าการเคลื่อนไหวของดัชนีในสัปดาห์หน้าจะยังคงมีความผันผวน โดยเฉพาะในวันจันทร์ ก่อนที่ตลาดจะหยุดทำการใน วันอังคาร ก็อาจจะทำให้นักลงทุนระมัดระวังการลงทุนมากขึ้น โดยมองว่า S50Z19 หลังจากปรับขึ้นทดสอบบริเวณ 1,060 แล้วไม่ผ่าน อ่อนตัวลงมาบริเวณ 1,050 จุด ก็ทำให้มีโอกาสไหลลงมาเคลื่อนไหวจุดต่ำเดิมที่ 1,046 จุด หากหลุดก็จะมีแนวรับถัดไปที่ 1,040 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,055 และ 1,060 จุด โดยแนะนำให้เทรดดิ้งในกรอบ ติดตามความคืบหน้าจากปัจจัยภายนอกที่จะเข้ามากระทบ
ด้านราคาทองคำพักตัวลงมา หลังจากที่ประเด็นการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนมีประเด็นบวกเข้ามา ทำให้มีแรงขาย ทำกำไรทองคำออกมาบ้าง อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังรอดูตัวเลขเศรษฐกิจจากฝั่งสหรัฐ หลังจากก่อนหน้านี้ได้เปิดเผยตัวเลขดุลการค้ายังคง ติดลบต่อเนื่อง ขณะที่ตัวเลขภาคการผลิตและบริการ ออกมาแย่กว่าคาดทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่า ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ โดย ตลาดรอดูตัวเลขด้านแรงงานในคืนนี้ต่อไป หากออกมาแย่กว่าคาดก็จะกดดันให้เงินดอลลาร์อ่อนค่า และเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำต่อ เนื่อง โดยหากราคาทองคำยืนเหนือ 1,460-1,470 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ได้ ก็มีโอกาสที่จะดีดกลับไปที่ 1,485 และ 1,490 เหรียญ สหรัฐ/ออนซ์ ในลำดับต่อไป แต่หากยืนไม่ได้ก็อาจจะกลับไปเคลื่อนไหวที่จุดต่ำเดิมที่บริเวณ 1,445 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์
ดัชนี SET50 ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,048.76 จุด ลดลง 4.64 จุด, -0.44%
ปริมาณ สถานะคงค้าง Total Market 353,932 3,662,053 Total Futures 345,634 3,587,764 SET50 Index 190,632 371,463 Sector Index - - Single Stock 117,241 3,097,481 Precious Metal 35,069 85,375 - GF10 11,872 35,858 - GF50 166 1,658 - Gold Online 23,031 47,859 Deferred Precious Metal 35 54 - GOLD-D 35 54 Currency 2,407 33,363 Interest Rate - - Agriculture 250 28 Total Options 8,298 74,289 Call 4,242 39,841 Put 4,056 34,448 สรุปปริมาณการซื้อขายตามกลุ่มผู้ลงทุน นักลงทุนสถาบัน นักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนภายในประเทศ Futures +5,839 -23,981 +18,142 Options +99 -5 -94