นายวรุต รุ่งขำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวว่า การซื้อขาย SET50 Index Futures วันนี้ เคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวก แต่ยังไม่สามารถขึ้นผ่านระดับสูงสุดที่เคยทำไว้ได้ที่ 859 จุด
ในระยะสั้นดัชนีปรับตัวขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น หลังสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออก กลางกลับมาปะทุขึ้นอีกครั้ง ประกอบกับ จีนและสหรัฐฯ ส่งสัญญาณเพิ่มสต็อกน้ำมันคงคลังต่อเนื่อง โดยทางจีนนำเข้าน้ำมันเพิ่มขึ้น 4.5% ใน เดือน มี.ค.ที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และไตรมาสแรกนำเข้าเพิ่มขึ้น 5% ส่วนสหรัฐฯ เตรียมเพิ่มน้ำมันคลังสำรอง ทางยุทธศาสตร์มากถึง 75 ล้านบาร์เรล โดยประธานาธิบดีโดนัลล์ ทรัมป์ อยู่ระหว่างขออนุมัติจากสภาครองเกรสเพื่อดำเนินการ
ปัจจัยดังกล่าวเป็นแรงหนุนตลาดหุ้นบ้านเราให้รีบาวด์ รวมถึงการส่งสัญญาณการกระตุ้นเศรษฐกิจในหลายประเทศเพิ่มเติม ทำ ให้ Sentiment ตลาดหุ้นในภูมิภาคขยับขึ้น แต่อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นจีนวันนี้ปิดตลาดในแดนลบ และตลาดหุ้นโรปได้รับแรงกดดันจากการ เปิดเผยตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเยอรมนี ดัชนีภาคการผลิต (PMI) ของฝรั่งเศล ยังมีแนวโน้มชะลอตัว จึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ ตลาดหุ้นบ้านเราขยับขึ้นไปได้ไม่ไกลมากนัก
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมดัชนียังมีลักษณะของการแกว่งตัวในกรอบและทรงตัวในระดับสูง โดยแนะนำการลงทุนอาจเป็นลักษณะ ของการลงทุนระยะสั้น จากการแกว่งตัวในกรอบ ขณะที่การเข้าซื้อควรรอให้ดัชนีปรับตัวลงมาก่อน เนื่องจากแม้ว่าดัชนีจะปรับตัวขึ้น แต่ยัง เผชิญแรงขายทำกำไรสลับออกมา
แนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดว่า S50M20 น่าจะแกว่งตัวในกรอบ ให้แนวต้านที่ 859-863 จุด ถ้ารับความเสี่ยงได้ให้เปิดสถานะ ขาย ถ้าดัชนียังไม่พ้นกรอบแนวต้านบริเวณ 863 จุด และให้แนวรับไว้ที่ 821-830 จุด
ส่วนราคาทองคำวันนี้ดีดตัวขึ้น โดยระหว่างวันราทำระดับสูงสุดใหม่จากวันก่อนหน้า และมีแรงซื้อเข้ามาในตลาดทองคำอย่าง ชัดเจน เนื่องด้วยหลายประเทศส่งสัญญาณกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯ ที่อยู่ระหว่างจัดสรรเงินงบประมาณ 2.6 ล้านล้าน ดอลลลาร์เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ, ธนาคารกลางญี่ปุ่นกำลังพิจารณาการขยายนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน รวมถึงธนาคารกลางยุโรป อาจจะอนุมัติให้ยอมรับหุ้นกู้ที่มีความเสี่ยงเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน เพื่อช่วยเหลือธนาคารต่างๆ ซึ่งถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้มีความหวังว่าจะมี เม็ดเงินบางส่วนไหลเข้าสู่ตลาดทองคำ
พร้อมกันนี้มองราคาทองคำดีดตัวขึ้นไปค่อนข้างมากแล้ว แม้ทิศทางจะเป็นบวกมากขึ้น แต่ไม่อยากให้นักลงทุนไล่ซื้อมากนัก อาจ จะรอให้ราคาอ่อนตัวลงมาแล้วค่อยเข้าซื้อ เนื่องจากเมื่อราคาขยับขึ้นแรงจะมีการเทขายทำกำไรออกมา ทำให้ราคาแกว่งตัวผันผวนสูง ดัง นั้น จึงแนะนำให้ลงทุนในระยะสั้น ให้แนวรับไว้ที่ 1,705 เหรียญสหรัฐฯ/ออนซ์ และแนวต้านที่ 1,739 เหรียญสหรัฐฯ/ออนซ์ โดยราคา ทองคำเริ่มขยับขึ้นใกล้กรอบแนวต้านดังกล่าวแล้ว
ดัชนี SET50 ปิดวันนี้ที่ระดับ 854.09 จุด เพิ่มขึ้น 5.28 จุด, +0.62%
ปริมาณ สถานะคงค้าง Total Market 312,480 1,452,421 Total Futures 311,092 1,422,185 SET50 Index 171,287 248,958 Sector Index - - Single Stock 100,276 1,090,928 Precious Metal 31,164 41,244 - GF10 7,216 24,074 - GF50 303 1,763 - Gold Online 23,645 15,407 Deferred Precious Metal - - - GOLD-D - - Currency 8,361 41,025 Interest Rate - - Agriculture 4 30 Total Options 1,388 30,236 Call 661 17,218 Put 727 13,018 สรุปปริมาณการซื้อขายตามกลุ่มผู้ลงทุน นักลงทุนสถาบัน นักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนภายในประเทศ Futures +7,652 +1,945 -9,597 Options -31 -28 +59