นายวรุต รุ่งขำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท วายอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์สกล่าวว่า การซื้อขาย SET50 Index Futures วันนี้ดัชนีปรับฐานอ่อนตัวลงต่อจากวันอังคารที่ผ่านมา โดยยังคงเผชิญแรงขายออกมาค่อนข้างสูง จากประเด็นสงคราม การค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่มีแนวโน้มตึงเครียดมากขึ้น หลังเข้าใกล้วันเลือกตั้งของสหรัฐฯ ซึ่งตลาดกำลังจับตาดูว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐจะใช้ประเด็นการทำสงครามการค้าและการหามาตรการในการตอบโต้ทางการค้าต่างๆกับทางการจีน เพื่อเรียกคะแนน เสียงในการสนับสนุนการเลือกตั้ง โดยความเสี่ยงที่จะเกิดสงครามการค้ารอบสองส่งผลให้การลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมีความผันผวนเพิ่มมาก ขึ้น
ประกอบกับในไทยจะมีการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 1/63 ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าน่าจะออกมาไม่ดี นัก จึงเป็นปัจจัยให้ SET50 Index Futures วันนี้ปรับฐาน หรืออ่อนตัวลงต่อค่อนข้างแรง แต่อย่างไรก็ตามการปรับตัวลงแรงๆ เหมือน ในช่วงที่ผ่านมาก็อาจจะเกิดขึ้นได้ยาก เนื่องด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่มีแนวโน้มลดลง, การผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในหลาย ประเทศ รวมถึงไทยด้วย อีกทั้งยังมีโอกาสที่เศรษฐกิจของไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นได้ค่อนข้างดี
แนวโน้มในวันพรุ่งนี้ คาดว่า อาจเห็นการรีบาวด์ของดัชนีหลังปรับตัวลงแรง โดยการฟื้นตัวขึ้นจะเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจาก มีโมเมนตัมเชิงบวกลดลง ในระยะสั้นให้แนวต้านที่ 848-861 จุด หากรีบาวด์แล้วยังไม่พ้นระดับดังกล่าว แนะนำให้ทยอยปิด Long และ เสี่ยงเปิดสถานะขาย (short) โดยให้แนวต้านบริเวณ 861 จุด เป็นจุดพิจารณาตัดขาดทุน ขณะที่ดัชนีอ่อนตัวลง ให้แนวรับแรกที่ 831 จุด และแนวรับถัดไปที่ 820 จุด หากมีการปรับตัวลงมาแต่ยังไม่หลุดระดับ 820 จุด แนะนำให้เข้าซื้อเพื่อลงทุนระยะสั้น หวังการทำกำไร ในการรีบาวด์ขึ้นอีกครั้ง หรือผู้ที่เปิดสถานะขายให้ทยอยปิดสถานะทำกำไรบางส่วน
ด้านราคาทองคำในวันนี้แกว่งตัวไซด์เวย์ถึงไซด์เวย์ดาวน์ แม้ราคาวันนี้จะไม่มี High-Low ใหม่ แต่การขยับขึ้นก็เป็นไปอย่าง จำกัด จากประเด็นสงครามการค้า มีแนวโน้มตึงเครียดมากขึ้น หลังมีการเปิดเผยยอดเกินดุลการค้าของจีน ในเดือนเม.ย.นี้ พบว่าจีน เกินดุลการค้าสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้น คิดเป็นตัวเลขราว 2.287 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากเดือนมี.ค.ที่เกินดุลฯ 1.533 หมื่นล้านดอลลาร์ สหรัฐฯ ทำให้ความไม่พอใจของสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้นไปด้วย ซึ่งนักลงทุนก็อยู่ระหว่างจับตาการเจรจาการค้าในสัปดาห์หน้าว่าจะมีท่าทีอย่าง ไร
อย่างไรก็ตามแม้ว่าประเด็นสงครามการค้า จะเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ทองคำก็ไม่สามารถดีด ตัวขึ้นได้มาก เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐฯ ในฐานะสกุลเงินปลอดภัยก็ได้รับแรงหนุนเช่นกัน ประกอบกับในช่วงนี้ทองคำยังได้รับแรงกดดันจาก การส่งออกทองคำของออสเตรเลียปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 3 เท่า รวมถึงการกลับมาเปิดโรงหลอมทองคำก็ทำให้มีการคาดการณ์ว่าอุป ทานทองคำในตลาดโลกอาจจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น
ให้แนวรับไว้ที่ 1,680 เหรียญสหรัฐฯ/ออนซ์ และแนวรับถัดไปที่ 1,668 เหรียญสหรัฐฯ/ออนซ์ ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,706-1,722 เหรียญสหรัฐฯ/ออนซ์ แนะนำให้เป็นการลงทุนในระยะสั้น จากการแกว่งตัวในกรอบ หากราคาปรับตัวลงมา ไม่หลุดแนว รับดังกล่าวให้เข้าเสี่ยงซื้อเล่นสั้น และตัดขาดทุนที่ 1,668 จุด และหากราคาขยับขึ้นแต่ยังไม่พ้น 1,722 เหรียญสหรัฐฯ/ออนซ์ ให้ทยอย แบ่งทองคำออกขาย เนื่องจากอาจเป็นสัญญาณการแกว่งไซด์เวย์ดาวน์มากขึ้น
โดยวันพรุ่งนี้แนะให้นักลงทุนจับตาดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตรากราว่างาน และรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงของ สหรัฐฯ ในเดือนเม.ย. ซึ่งอาจจะบ่งชี้ถึงทิศทางภาคตลาดแรงงานในฝั่งสหรัฐฯ ได้ชัดเจนมากขึ้น
ดัชนี SET50 ปิดวันนี้ที่ระดับ 842.56 จุด ลดลง 14.01 จุด -1.64%
ปริมาณ สถานะคงค้าง Total Market 317,042 1,437,992 Total Futures 311,760 1,402,253 SET50 Index 160,171 266,681 Sector Index - - Single Stock 129,133 1,080,141 Precious Metal 18,526 30,505 - GF10 5,487 17,619 - GF50 136 1,036 - Gold Online 12,903 11,850 Deferred Precious Metal - - - GOLD-D - - Currency 3,928 24,896 Interest Rate - - Agriculture 2 30 Total Options 5,282 35,739 Call 1,589 19,043 Put 3,693 16,696 สรุปปริมาณการซื้อขายตามกลุ่มผู้ลงทุน นักลงทุนสถาบัน นักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนภายในประเทศ Futures +12,445 +12,054 -24,499 Options +181 -1,128 +947