นายวรุต รุ่งขำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวว่า การซื้อขาย SET50 Index Futures วันนี้ปรับตัวลงแรง เป็นการปรับฐานตามตลาดหุ้นต่างประเทศ และดาวน์โจนส์ฟิวเจอร์พักฐานปรับตัวลงกว่า 200 จุด จากความวิตกกังวลทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐหลังคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ไตรมาส 2/63 จะย่ำแย่ค่อนข้างมาก สะท้อนผลกระทบเศรษฐกิจจากโควิดจากการปิดเมืองในเดือน เม.ย.63
ขณะเดียวกันบ่ายวันนี้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) คาดการณ์ว่าในปี 63 เศรษฐกิจไทยจะติดลบถึง 8.5% รับผล กระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นหลักก่อนจะกลับมาขยายตัวในระดับ 4-5% ในปี 64 ทำให้เพิ่มความวิตก กังวลเศรษฐกิจในประเทศเป็นแรงกดดันการเคลื่อนไหวของ SET50 Index Futures ในภาคบ่าย
อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องจับตาการประกาศผลประกอบการในไตรมาส 2/63 ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหุ้นที่ยัง ประเมินว่าเศรษฐกิจและผลประกอบการบจ.ที่ทยอยออกมาน่าจะมีสัญญาณไม่ดีมากนัก เป็นโมเมมตัมที่ทำให้ตลาดพักฐานค่อนข้างแรง
แนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดว่าจะมีการรีบาวด์ได้บ้าง แต่ยังต้องรอทิศทางตลาดภูมิภาคและตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ประเมินแนวต้าน ที่ 856 จุด และ 864 จุด หากไม่ผ่านอาจพักฐานและปรับตัวลงต่อได้ แต่คาดว่าการอ่อนตัวจำกัด มองแนวรับที่ 838 จุดซึ่งเป็นจุดต่ำสุด เมื่อ 15 พ.ค.63 ถ้ายืนได้น่าจะรีบาวด์ แต่หากยืนไม่ได้ก็ให้แนวรับถัดไปที่ 828 จุด ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดเมื่อ 1 พ.ค.63 แนะนำหากรีบาวด์ ให้ทยอยขาย (short) ตามแนวต้าน หากไม่ผ่าน 864 จุดที่เป็นแนวต้านที่คาดว่าจะค่อยๆ ปรับฐานลง
ส่วนราคาทองคำวันนี้แกว่งตัวออกด้านข้างหลังจากปรับตัวขึ้นมา ราคาปรับตัวขึ้นทดสอบในระดับ 1,980-1,981 เหรียญ สหรัฐ/ออนซ์มา 2 ครั้งในวันที่ 28 ก.ค. และ 29 ก.ค.แต่ไม่ผ่าน และมีแรงขายทำกำไร แต่การย่อตัวไม่มากเมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมา
มองราคาทองคำพรุ่งนี้มีแนวรับที่ 1,930 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ หากทรงตัวและยืนเหนือแนวรับได้ จะเกิดการสร้างฐาน และ ย่อตัวลงมาสะสมแรงซื้อก็มีลุ้นรีบาวด์และดีดตัวขึ้นไปแตะแนวต้าน 1,981 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในประวัติการณ์ และให้ แนวต้านถัดไปที่ 2,000 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์
ทั้งนี้ ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังมีนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน และประธานเฟดส่ง สัญญาณแสดงความเห็นด้วยสภาคองเกรสใช้นโยบายการคลัง ทำให้ทองคำกลับมาได้รับความนิยม จากการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทำ ให้เกิดภาวะเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น ซึ่งการถือทองคำช่วยปกป้องภาวะเงินเฟ้อ
นอกจากนี้ยังได้แรงหนุนจากสภาทองคำโลก คาดว่าอุปสงค์ของอินเดีย ซึ่งเป็นผู้บริโภคทองคำอันดับ 2 ของโลก มีทิศทาง ชะลอตัวในรอบ 26 ปี ฉะนั้นแรงซื้อทองคำมาจากแรงเก็งกำไรจากกองทุน ทำให้อาจเผชิญแรงขายทำกำไร กลยุทธ์แนะนำลงทุนในกรอบ เข้าซื้อ (long) แนวรับที่ 1,930 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ หากหลุดระดับนี้อาจเข้าซื้อที่แนวรับ 1,906 และ 1,900 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ โดยระดับ 1,906 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์เป็นระดับต่ำสุดเมื่อวันที่ 28 ก.ค.63 ซึ่งเป็นแนวรับจิตวิทยา
ดัชนี SET50 ปิดวันนี้ที่ระดับ 854.12 จุด ลดลง 17.29 จุด, -1.98%
ปริมาณ สถานะคงค้าง Total Market 519,377 1,809,592 Total Futures 511,597 1,766,576 SET50 Index 201,270 290,377 Sector Index - - Single Stock 232,380 1,377,085 Precious Metal 49,795 58,775 - GF10 14,731 30,565 - GF50 511 1,580 - Gold Online 34,553 26,630 Deferred Precious Metal 4 4 - GOLD-D 4 4 Currency 28,136 40,099 Interest Rate - - Agriculture 12 236 Total Options 7,780 43,016 Call 3,142 12,797 Put 4,638 30,219 สรุปปริมาณการซื้อขายตามกลุ่มผู้ลงทุน นักลงทุนสถาบัน นักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนภายในประเทศ Futures +80,633 +859 -81,492 Options +437 -125 -312