นายวรุต รุ่งขำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน ฟิวเจอร์ส กล่าวว่า การซื้อขาย SET50 Index Futures วันนี้ S50M21 ระหว่างวันดัชนีมีการรีบาวด์ ก่อนจะลดช่วงบวกลง เหลือบวกเพียงเล็กน้อย โดยการปรับ ตัวขึ้นเป็นผลมาจากเมื่อวานนี้มีการเทขายไปค่อนข้างมาจากPanic sell ขณะเดียวกันตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียก็ปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้น สหรัฐ ตอบรับข้อมูลเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานประจำสัปดาห์ หรือตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต PPI ออกมาค่อนข้าง ดี จึงหนุนให้ดัชนีปรับตัวขึ้น
ทั้งนี้หากดูในส่วนของดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้มีลักษณะการแกว่งตัวทั้งในแดนบวกและลบสลับกัน ก่อนกลับมาบวกได้เล็กน้อยในภาค บ่าย ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ SET50 Index Futures ขยับขึ้นได้ไม่ไกล รวมถึงจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศที่ยังยืนเหนือระดับ 2,000 ราย และความกังวลเกี่ยวกับ Fund Flow หรือเม็ดเงินที่จะไหลออกจากตลาดหุ้นไทย หลังดัชนี MSCI มีการปรับน้ำหนักการลงทุนใน หุ้นไทยลง ก็เห็นนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิค่อนข้างมากในตลาด SET และ TFEX เมื่อวานนี้ ก็ทำให้ภาพโดยรวมของ SET50 Index Futures ยังแกว่งตัวในทิศทางซึมตัวลง
แนวโน้มสัปดาห์หน้า คาดว่า ยังมีทิศทางแกว่งตัวลง หรือปรับฐานลงอยู่ โดยให้แนวต้านระยะสั้น ที่ 942 จุด ถ้า ดัชนีฟื้นตัวขึ้นไป 940-942 จุด แล้วไม่ผ่าน แนะนำเปิดสถานะขาย ส่วนจุดทำกำไร ให้ทยอยปิดขายเพื่อเล่นรอบ ถ้าดัชนีอ่อนตัวลงมาไม่หลุด แนวรับที่ระดับ 915-918 จุด แต่ถ้าหลุด 915 จุดลงไป ให้แนวรับถัดไปที่ 904-906 จุด
แนะนักลงทุนให้ติดตามการส่งสัญญาณการพิจารณาการผ่อนปลนมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ซึ่งน่าจะมีการประกาศอย่างเป็น ทางการได้ในวันพรุ่งนี้ (15 พ.ค.64) ซึ่งการส่งสัญาณในลักษณะดังกล่าวก็มองว่าจะทำให้เกิดการผ่อนคลายมากขึ้นและภาคธุรกิจสามารถเดิน หน้าต่อไปได้ รวมถึงติดตามการทยอยฉีดวัคซีนให้กับประชาชน ซึ่งหากมีการเร่งฉีดวัคซีนได้เร็วมากขึ้นก็น่าจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อดีตลาดหุ้น เพิ่มเติม
ด้านราคาทองคำวันนี้ปรับตัวขึ้น แต่ก็ยังมีแรงขายทำกำไรสลับกลับออกมา เนื่องด้วยนักลงทุนคลายความกังวลต่อการปรับขึ้น ดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และถอนมาตรการ QE ออกไป หลังเฟดออกมาส่งสัญญาณว่าเฟดจะยังไม่มีการปรับเปลี่ยนนโยบายการ เงินในระยะเวลาอันใกล้ ทำให้เป็นปัจจัยกดดันต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) สหรัฐฯ อายุ 10 ปี อ่อนตัวลง สะท้อนให้เห็น ถึงการคาดการณ์ต่อทิศทางดอกเบี้ยในตลาดเงินตลาดทุนที่เริ่มชะลอตัวลง ประกอบกับการปรับฐานลงของสกุลเงินดิจิทัล ก็กลับมาเป็นปัจจัยหนึ่ง ที่อาจจะมีเม็ดเงินไหลกลับเข้ามาลงทุนในตลาดทองคำ ทำให้ราคาทองคำค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นได้ต่อ
อย่างไรก็ตาม แนะนำติดตาม การเปิดเผยรายงานการประชุมของคณะกรรมการ FOMC ซึ่งเป็นรายงานการประชุมของเฟดในวัน ที่ 27-28 เม.ย. อาจจะไปดูรายงานว่าเฟดมีมุมมองต่อการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินอย่างไรในการประชุมครั้งถัดไป และจับตาดูจำนวนผู้ ติดเชื้อโควิด-19 ในอินเดีย ที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น และหากสถานการณ์ยังคงรุนแรงต่อเนื่อง ก็อาจทำให้อินเดียเพิ่มความเข้มงวด หรือประการ เคอร์ฟิว หรือล็อกดาวน์บางส่วน ซึ่งส่งผลต่อการนำเข้าทองคำของอินเดีย และอาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่กลับมากดดันราคาทองคำ รวมถึงจับตา สถานการณ์การสู้รบระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ จะขยายวงกว้างไปยังประเทศกลุ่มพันธมิตรหรือไม่ ถ้าขยายวงกว้างก็อาจจะเกิดความขัด เย้งระหว่างสหรัฐและอิหร่าน ให้เกิดความตึงเครียดในตะวันออกกลางเพิ่มสูงขึ้น และน่าจะส่งผลต่อราคาทองคำเพิ่มเติม
ให้แนวรับ 1,803-1,809 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ ถ้าไม่หลุดมองราคาทองคำยังขยับขึ้นได้ต่อ โดยให้แนวต้าน 1,845 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ ถ้าไม่ผ่านให้ขายทำกำไรเล่นรอบ แล้วรอซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลงหลุดแนวรับ แต่ถ้าผ่านได้ให้แนวต้านถัดไปเป็นเป้าหมายที่ ต้องเพิ่มความระวังที่ 1,856 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ แนะเปิดสถานะ Long แล้วทยอยแบ่งขายตามบริเวณแนวต้านต่างๆ เพื่อทำกำไร
ดัชนี SET50 ปิดวันนี้ที่ระดับ 938.68 จุด เพิ่มขึ้น 0.35 จุด, +0.04%
ปริมาณ สถานะคงค้าง Total Market 783,612 2,950,524 Total Futures 773,782 2,894,937 SET50 Index 282,379 358,805 Sector Index - - Single Stock 435,533 2,433,921 Precious Meta 42,001 60,471 - GF10 4,916 16,610 - GF50 132 885 - Gold Online 36,445 40,773 - Silver Online 508 2,203 Deferred Precious Metal 4 8 - GOLD-D 4 8 Currency 13,742 41,615 Interest Rate - - Agriculture 123 117 - Japanese Rubber 123 117 - RSS3D - - - RSS3 - - Total Options 9,830 55,587 Call 2,496 19,269 Put 7,334 36,318 สรุปปริมาณการซื้อขายตามกลุ่มผู้ลงทุน นักลงทุนสถาบัน นักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนภายในประเทศ Futures. +44,271 +99,849 -144,120 Options +1,152 -23 -1,129