นายวรุต รุ่งขำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน ฟิวเจอร์ส กล่าวว่า การซื้อขาย SET50 Index Futures วันนี้ S50U22 วันนี้ดัชนีแกว่งตัวกรอบไม่กว้างนัก แม้ดัชนีจะได้แรงหนุนจากเงินเฟ้อไทยชะลอความร้อนแรงลง ทำให้คลายวิตก กังวลภาวะเศรษฐกิจในประเทศ และยังได้แรงหนุนจากกลุ่มแบงก์ที่คาดการณ์ว่าการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) อาจ ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายระดับปกติที่ 0.25%
แต่ S50U22 ปรับขึ้นได้อย่างจำกัด เพราะตลาดหุ้นไทยรับแรงกดดันสถานการณ์ความตึงเครียดจากการที่จีนซ้อมรบอย่างหนัก รอบเกาะไต้หวัน โดยในวันนี้ยิงขีปนาวุธข้ามเกาะไต้หวันไปตกบริเวณเศรษฐกิจพิเศษของญี่ปุ่น ทำให้มองว่าการซ้อมรบในวันเสาร์-อาทิตย์นี้ ยังมีความเสี่ยงต่อการลงทุนในตลาดหุ้น
นอกจากนี้ จีนยังมีการระบาดของโควิด-19 เพิ่มมากขึ้น และล็อกดาวน์บางเมือง เป็นปัจจัยทำให้นักลงทุนมองภาพรวม อุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่คาดจะมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาในไทยคงเกิดยากในระยะสั้น เป็นปัจจัยให้ดัชนีปรับตัวขึ้นได้ไม่ไกล รวมทั้งตลาดรอ ติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราว่างงานของสหรัฐคืนนี้ เพื่อคาดการณ์การปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินของธนาคารกลาง สหรัฐ (เฟด)
แนะนำอาจลงทุนระยะสั้น ถ้าดัชนีซึมตัวลงให้แนวรับ 955-953 จุดเป็นจังหวะซื้อ และ stop loss หากหลุด 953 จุด แต่ หากดัชนีปรับขึ้นให้แบ่งขายทำกำไร แนวต้านแรก 967 จุด แนวต้านถัดไปที่ 975 จุด โดยลุ้นตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐคืนนี้หากออกมาดีมาก ก็จะทำให้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยได้มาก ก็จะเป็นลบต่อทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐ แต่หากตัวเลขชะลอตัวหรือใกล้เคียงตลาดคาดก็จะเป็นปัจจัยที่ทำ ให้เฟดไม่ได้ปรับขึ้นดอกเบี้ยแรง ก็ไม่น่าจะส่งผลกระทบทางลบต่อตลาดหุ้น
ส่วนราคาทองคำ แม้จะได้ประโยชน์จากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีน รวมถึงการซ้อมรบของจีน แต่ก็ยังต้องรอตัวเลข การจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในคืนนี้ ทำให้ราคาทองคำย่อนตัวลงมาก่อน เพราะนักลงทุนเลือกชายออกมาก่อนรู้ตัวเลข เรายังมอง ว่าจะมีแรงขายสลับลงมาถ้าตัวเลขออกมาไม่ดีนักแต่อาจไม่ลงลึก หากทองคำย่อตัว บริเวณแนวรับ 1,777-1,762 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ และไม่หลุด ระดับ 1,762 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ ทิศทางยังเป็นขาขึ้น แนะแบ่งขายทำกำไร โดยให้แนวต้านแรก 1,803 เหรียญสหรัฐ/ ออนซ์ ถ้าผ่านให้แนวต้านถัดไป 1,820 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์
นอกจากนี้ในสัปดาห์หน้ามองว่ายังมีปัจจัยบวกหนุนราคาทองคำ ได้แก่ ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐเตรียมลงนาม กฎหมายสนับสนุนอุตสาหกรรมเซมิคคอนดักเตอร์และการผลิตชิป จะทำให้จีนและไต้หวันเสียผลประโยชน์ และทำให้ความตึงเครียดระหว่าง สหรัฐและจีนเพิ่มมากขึ้น จีนอาจมีมาตรการตอบโต้ และการล็อกดาวน์ในจีนเพิ่มขึ้นหลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูงขึ้น เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อ เศรษฐกิจ ขณะที่เป็นบวกต่อทิศทางราคาทองคำ รวมถึงการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อเดือนก.ค.ของสหรัฐในวันที่ 10 ส.ค. ที่คาดว่าจะ ชะลอตัวจากเดือนก่อน เฟดก็จะมีแนวโน้มชะลอปรับขึ้นดอกเบี้ยแรงตามเงินเฟ้อ
SET50 ปิดวันนี้ที่ระดับ 969.41 จุด เพิ่มขึ้น 2.12 จุด, +0.22%
ปริมาณ สถานะคงค้าง Total Market 446,972 3,652,346 Total Futures 443,188 3,560,954 SET50 Index 147,970 532,990 Sector Index - - Single Stock 151,021 2,747,364 Precious Metal 58,607 79,709 - GF10 7,964 15,732 - GF50 151 548 Gold Online 50,185 60,719 - Silver Online 307 2,710 Deferred Precious Metal - - - GOLD-D - - Currency 85,527 200,560 Interest Rate - - Agriculture 63 331 - Japanese Rubber 63 331 - RSS3D - - - RSS3 - - Total Options 3,784 91,392 Call 1,871 45,175 Put 1,913 46,217 สรุปปริมาณการซื้อขายตามกลุ่มผู้ลงทุน นักลงทุนสถาบัน นักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนภายในประเทศ Futures +1,694 -4,675 +2,981 Options +193 -30 -163