นายวรุต รุ่งขำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า การซื้อขาย SET50 Index Futures วันนี้ S50H23 ปรับตัวขึ้น ตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับขึ้นแรง ส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน รวมถึงกลุ่มธนาคารพาณิชย์ จากนักลงทุนคลายกังวลต่อวิกฤตภาคธนาคารในสหรัฐ แต่ยังมีแรงขายทำกำไรออกมาต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันพรุ่งนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ทำให้เริ่มเห็นกระแสคาดการณ์ว่าจะขึ้นหรือ ไม่ขึ้น โดยนักลงทุนส่วนหนึ่งมองว่าจะขึ้นอีก 1 ครั้ง เพื่อให้มีทิศทางที่สอดคล้องกับตลาดโลก ซึ่งหากปรับขึ้น นักลงทุนก็มีความกังวล ว่าจะกระทบต่อตลาดหุ้นให้ปรับตัวลงได้ จากจะไปทำให้ต้นทุนของบริษัทจดทะเบียนไทย (บจ.) เพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตามนักลงทุนก็ ยังมีความหวังว่า กนง.จะไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ย จากเงินเฟ้อไม่ได้มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้น โดย วายแอลจี ประเมินการประชุมกนง.วัน พรุ่งนี้ จะส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยต่อ หากขึ้นเลยทันทีจะเป็นปัจจัยลบต่อตลาดฯ
ส่วนความคาดหวังการทำ Window Dressing อาจเข้ามาช่วยหนุนตลาดในช่วงปลายไตรมาส 1/66 มองว่าอาจไม่ ได้เข้ามาหนุนมากนัก จากที่ผ่านมาดัชนีฯ ปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมากแล้ว แต่แนะให้จับตาดูหลังจบ Window Dressing ปิดรอบบัญชี ระวังแรงขายออกมา ทำให้นักลงทุนระวังการไล่ซื้อ หรือระวังการเข้าไปเปิดสถานะ Long มากขึ้น
ทั้งนี้นักลงทุนยังจับตาดูการกล่าวสุนทรพจน์ ของนายไมเคิล บาร์ รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ฝ่ายควบคุม กฎระเบียบธนาคาร ในคืนนี้และวันพฤหัสบดีนี้ ว่าจะแสดงท่าที หรือส่งสัญญาณต่อมาตรการควบคุมภาคธนาคารที่เข้มงวดอย่างไร ก่อน ที่จะมีการออกมาตรการในวันที่ 1 พ.ค.นี้ ซึ่งหากมีการเข้มงวดต่อภาคธนาคาร คาดจะช่วยให้นักลงทุนคลายกังวลต่อ Bank Run มากขึ้น และหนุนต่อตลาดหุ้นในระยะสั้น เนื่องจากในระยะถัดไป มองว่ามาตรการที่เข้มงวดก็อาจจะกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย
วันพรุ่งนี้คาดแกว่งไซด์เวย์ รอดูการประชุม กนง. แนะนำทยอยแบ่งขาย ถ้าดัชนีปรับตัวขึ้นมาที่แนวต้าน 970-973 จุด โดยให้เสี่ยง Short หากปรับตัวขึ้นไปต่อได้ ให้จุดตัดขาดทุนไว้ที่ 978 จุด และเมื่ออ่อนตัวลงมา ให้แนวรับไว้ที่ 955 จุด แนะ ลดสถานะขายถ้าไม่หลุดแนวรับดังกล่าว แต่ถ้าหลุดลงมาที่ 947 จุด ให้ปิดสถานะขาย
ราคาทองคำวันนี้ปรับฐานลง สวนทางสินทรัพย์เสี่ยง หลังวิกฤตภาคธนาคารในสหรัฐคลี่คลาย โดยแนวโน้มดังกล่าวทำ ให้นักลงทุนมองว่าจะหนุนธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขึ้นดอกเบี้ยต่อ ทำให้เป็นปัจจัยกดดันต่อราคาทองคำในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม การอ่อนตัวลงของราคาทองคำไม่ได้รุนแรงมากนัก เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าในระยะกลางเฟดจะต้องหยุดขึ้นดอกเบี้ย และเศรษฐกิจ จะกลับมาถดถอย ทำให้เห็นแรงช้อนซื้อ หลังราคาทองคำปรับตัวลงไปที่ 1,944 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ ซึ่งไม่ได้ทำ Low ต่ำกว่า Low ก่อนหน้า ทำให้ทรงตัว ไซด์เวย์ในบริเวณนี้
ภาพราคาทองคำ น่าจะเป็นลักษณะไซด์เวย์อัพ โดยมีแนวรับที่ 1,950 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ หากหลุด หรือทำ Low ต่ำ กว่า 1,944 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ ให้ตัดขาดทุน เนื่องจากจะลงไปหาแนวรับที่ 1,933 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ แนะให้รอดุการตั้งฐาน ของราคา ค่อยพิจารณาเข้าซื้อ และให้ทยอยแบ่งทองคำออกขายตามแนวต้านที่ 1,982-2,000 และ 2,003 เหรียญสหรัฐ/อนนซ์ เพื่อเป็นการขายทำกำไรเล่นสั้น
SET50 ปิดวันนี้ที่ระดับ 967.78 จุด เพิ่มขึ้น 7.77 จุด, +0.81%
ปริมาณ สถานะคงค้าง Total Market 869,040 3,629,355 Total Futures 857,066 3,456,751 SET50 Index 460,314 696,593 Sector Index - - Single Stock 312,255 2,569,034 Precious Metal 42,822 55,001 - GF10 6,656 16,747 - GF50 84 533 - Gold Online 35,949 36,491 - Silver Online 133 1,230 Deferred Precious Metal 3 1 - GOLD-D 3 1 Currency 41,631 135,562 - EURUSD 825 1,905 - USD 39,514 130,927 - USDJPY 1,292 2,730 Interest Rate - - Agriculture 41 560 - Japanese Rubber 41 560 - RSS3D - - - RSS3 - - Total Options 11,974 172,604 Call 7,787 100,733 Put 4,187 71,871 สรุปปริมาณการซื้อขายตามกลุ่มผู้ลงทุน นักลงทุนสถาบัน นักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนภายในประเทศ Futures +15,186 +17,641 -32,827 Options +926 +248 -1,174