นายวรุต รุ่งขำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า การซื้อขาย SET50 Index Futures วันนี้ S50M25 ดัชนีฟื้นตัวกลับค่อนข้างดี ปรับตัวบวกได้ถึง 14 จุดหรือประมาณ 2% จากการรีบาวด์ของหุ้นขนาดใหญ่ อาทิ กลุ่มธนาคาร GULF และ CPALL หนุนตลาด รวมทั้งราคาหุ้น DELTA ที่ก่อนหน้านี้เคลื่อนไหวแดนลบ ก่อนกลับมาเคลื่อนไหวแดนบวก ในช่วงบ่าย หนุนดัชนีปรับตัวขึ้นค่อนข้างดี
ขณะที่ตลาดภูมิภาค อาทิ ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ ตลาดหุ้นฮ่องกง กลับมาเคลื่อนไหวแดนบวก แม้สหรัฐเดินหน้าเรียกเก็บภาษีสินค้า นำเข้าจากจีน 104% ในวันพรุ่งนี้ แต่จีนยังไม่มีการเจรจาตกลงเพื่อปรับลดภาษี ยังเป็นการใช้มาตรการภาษีตอบโต้แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน โดยล่าสุดจีนออกมาเปิดเผยข้อมูลว่า ได้เตรียมแผนรับมือหรือเตรียมมาตรการเพื่อชดเชยภาคธุรกิจที่จะได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีที่ สหรัฐ การส่งสัญญาณจากภาครัฐดังกล่าวทำให้ตลาดคลายความกังวลต่อสถานการณ์สงครามการค้า และเป็นปัจจัยที่เรามองว่าทำให้นักลงทุน จับตาดูมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากจีนที่จะประกาศออกมาว่าจะสามารถชดเชยผลกระทบจากสงครามการค้าได้มากน้อยแค่ไหน ทำให้ Sentiment ตลาดหุ้นจีนและไทย เริ่มมีสัญญาณรีบาวด์และฟื้นตัว
ประกอบกับการเจรจาภาษีสหรัฐของเกาหลีและญี่ปุ่น มีความคืบหน้าทำให้มีความหวังว่าการเจรจาภาษีระหว่างไทยและสหรัฐ น่าจะมีความหวังหรือสามารถเจรจากันได้
แนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดดัชนียังมีลักษณะของการแกว่งตัวผันผวน อย่างไรก็ตามการที่ดัชนีฟื้นตัวขึ้นมา แจระมัดระวังแรงขายทำ กำไรระยะสั้น ให้แนวรับ 675 ? 666 จุด ถ้าดัชนีทรงตัวเหนือแนวรับได้ ลุ้นเห็นดัชนีปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 695 ? 704 จุด กลยุทธ์ การลงทุนแนะนำซื้อขายจากการแกว่งตัวในกรอบ อาจต้องดูว่าราคาอยู่ใกล้กับกรอบแนวรับหรือแนวต้าน ถ้าราคาปรับขึ้นใกล้แนวต้าน แนะ นำเปิดสถานะขาย หากราคาวันพรุ่งนี้ย่อตัวใกล้กรอบแนวรับ เสี่ยงเปิดสถานะซื้อ
โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ประเด็นสงครามการค้าเป็นปัจจัยที่นักลงทุนกังวล อาจทำให้เงินเฟ้อสหรัฐเร่งตัวขึ้น แนะติดตามการ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) คืนวันพฤหัส และดัชนีผู้ผลิต (PPI) ในวันศุกร์ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางเงินเฟ้อสหรัฐ รวมทั้งคืนวันพุธ จะมีการเปิดเผยรายงานการประชุม คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ต้องตามดูว่าเจ้าหน้าที่เฟด ยังคงยืนยันต่อแนวโน้มการปรับอัตราดอกเบี้ยหรือไม่หากเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้น ซึ่งปัจจัยดังกล่าวน่าจะส่งผลต่อแนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยของ เฟด และส่งผลต่อการเคลื่อนไหวการลงทุนตลาดหุ้นต่างประเทศ
ด้านราคาทองคำ มีสัญญาณขยับรีบาวด์ขึ้น ค่อนข้างชัดเจน โดยหากแนวโน้มสงครามการค้ายังรุนแรง อาจทำให้เฟดชะลอการ ลดอัตราดอกเบี้ย แต่ทิศทางการเจรจาในหลายประเทศที่อาจไม่ได้รุนแรงอย่างคาด ทำให้เรามองว่าแนวโน้มดังกล่าวอาจไม่ได้ทำให้เงิน เฟ้อเร่งตัวจากสงครามการค้า ทำให้เฟดยังคงภาพการปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้ อย่างไรก็ตามสงครามการค้ายังมีความไม่แน่นอน ยากต่อ การคาดการณ์ ทำให้ราคาทองคำแกว่งขึ้นลงค่อนข้างมาก แนะทำกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัวในกรอบ
ทั้งนี้มองราคาทองคำยังแกว่งในกรอบ ทิศทางไซด์เวย์ดาวน์ พักฐาน ให้แนวต้าน 3,054 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ และแนวรับ 3,000 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์
ดัชนี SET50 ปิดวันนี้ที่ระดับ 696.06 จุด เพิ่มขึ้น 12.37 จุด, +1.81%
ปริมาณ สถานะคงค้าง Total Market 700,799 2,028,160 Total Futures 683,027 1,959,413 Equity Index 350,141 543,346 SET50 Index 350,141 543,346 Sector Index - - Single Stock 205,039 1,233,274 Precious Metal 59,032 54,434 - GF 110 214 - GF10 3,508 7,348 - Gold Online 54,700 44,583 - Silver Online 714 2,289 Deferred Precious Metal - 2 - GOLD-D - 2 Currency 68,641 128,096 - USD/THB 61,121 118,316 - EUR/THB 12 175 - JPY/THB 739 1,844 - EUR/USD 1,350 3,063 - USDJPY 5,419 4,698 Interest Rate - - Agriculture 174 261 - JRF 174 261 - RSS3D - - - RSS3 - - Total options 17,772 68,747 Call 9,708 32,412 Put 8,064 36,335 สรุปปริมาณการซื้อขายตามกลุ่มผู้ลงทุน นักลงทุนสถาบัน นักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนภายในประเทศ Futures +9,531 +33,125 -42,656 Options +425 +4,356 -4,781