จะว่าไปแล้วกลยุทธ์การตลาดนั้นมีชื่อเรียกที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเกาะกระแสข่าวดัง การตลาดแบบเรียลไทม์ การตลาดแบบเกาะติดทุกเทรนด์โลก และบางแบรนด์ก็ประสบความสำเร็จในการทำตลาดแนวนี้ ในขณะที่หลายแบรนด์ล้มเหลว
หลายแบรนด์อาจจะคิดว่า การตลาดแบบนี้ต้องใช้เวลาวางแผนมาก แถมยังต้องใช้เงินและทุ่มแรงกายเพื่อสรรหาคอนเทนต์เด่นตามเว็บข่าวหรือโซเชียลมีเดีย และผสานคอนเทนต์เหล่านี้เข้ากับกลยุทธ์การตลาดหรือการสื่อสาร ยิ่งไปกว่านั้น การขาดแคลนเครื่องมือและทรัพยากรด้วย จึงทำให้กลยุทธ์เหล่านี้จึงดูท้าทายเกินเอื้อม
เราได้จัดทำเช็คลิสต์นี้ขึ้นมาเพื่อที่คุณจะได้ใช้ประโยชน์จากคอนเทนต์ที่กำลังมาแรงได้
อันดับแรก คุณต้องพิจารณาคอนเทนต์ บริบท และบทสนทนาให้ถี่ถ้วน แม้กระแสนิยมจะเป็นอะไรที่มาเร็วไปเร็ว แต่คุณก็ควรพิจารณาให้รอบด้านก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรลงไป
แม้หัวข้อที่คุณเลือกมานำเสนอจะมีประโยชน์ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่หัวข้อแบบนี้ก็อาจพาคุณไปเจอกับหายนะได้หากมีการตีความผิด ๆ หรือเจอเข้ากับคอมเมนต์ก่อกวนบนโลกอินเทอร์เน็ต
หลีกเลี่ยงการสร้างความขัดแย้งโดยไม่ได้ตั้งใจซึ่งอาจนำไปสู่วิกฤติด้านการประชาสัมพันธ์ เคล็ดลับคือ: อย่า! เน้นว่า อย่า! นำเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์หรือเรื่องราวที่เป็นโศกนาฏกรรมมาสร้างประโยชน์ให้กับแบรนด์ของคุณ
อย่าออกนอกเรื่อง กระแสต่าง ๆ มักมาเร็วไปเร็ว ส่วนหนึ่งของความสนุกในการสร้างคอนเทนต์แบบเกาะกระแสคือการพัฒนาเนื้อหาไปพร้อม ๆ กับเทรนด์ที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เพราะฉะนั้น จงมีเหตุผล อย่าใช้ความคิดไปกับการสร้างเนื้อหาหรือแคมเปญที่ไม่สมเหตุสมผลทั้งในแง่ของระยะเวลา ค่าใช้จ่าย หรือการผูกมัด การใช้เวลาเพื่อมองหาประโยชน์จากกระแสต่างๆ มากเกินไปจะทำให้คุณพลาดโอกาสดี ๆ ไปได้
ยกตัวอย่างเช่น หากคุณไม่มีทีมผลิตวิดีโอหรือแอนิเมชั่นมืออาชีพประจำบริษัทก็อย่าหาเรื่องใส่ตัว แต่ควรใช้ความสามารถของทีมงานและสิ่งที่พวกเขาสามารถทำได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ จะดีกว่า
นึกถึงผลประโยชน์แฝงเร้น ทุกสิ่งที่เราทำล้วนหวังผลเชิงธุรกิจ แต่อย่าลืมว่าบางครั้งสิ่งเล็กๆน้อยๆก็สามารถกระตุ้นหรือส่งผลดีได้อย่างต่อเนื่อง
ยกตัวอย่างเช่น การทำ Mannequin Challenge หรือการทำตัวนิ่งๆ แบบหุ่นขี้ผึ้งแล้วถ่ายคลิปวิดีโอวนไปรอบ ๆ เพื่อสร้างกระแสอาจไม่ช่วยสร้างรายได้ให้กับแบรนด์ แต่การโพสต์ลงบนเฟซบุ๊กอาจช่วยเพิ่มยอดเข้าชมบนไทม์ไลน์ และทำให้มีการเข้าถึงคอนเทนต์ได้มากขึ้น
หากคุณมองว่าการควบคุมคอนเทนต์แบบเกาะกระแสเป็นสิ่งสำคัญสำหรับแบรนด์คุณแล้ว ก็ถึงเวลาที่คุณจะต้องลงมือทำ โดยมีหลายวิธีที่จะทำให้คุณได้ประโยขน์จากการนำกลยุทธ์เหล่านี้ไปใช้:
- เขียนบล็อกด้วยสิ่งที่เรียนรู้จากเทรนด์ที่กำลังมาแรง อย่าลืมใส่ลิงค์ที่มาของเทรนด์ รวมถึงลิงค์ของแบรนด์หรือสิ่งที่เกี่ยวของกับเทรนด์นั้น ๆ ด้วย
- นำเสนอข้อมูลดั้งเดิมที่สนับสนุนหรือหักล้างเทรนด์ และเผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ พร้อมนำเสนอผลที่ได้ให้สื่อได้รับรู้
- หาจุดเชื่อมโยงระหว่างกระแสและแบรนด์ พร้อมนำเสนอภาพรวมเบื้องต้นแก่สื่อเพื่ออำนายความสะดวกในการหาข้อมูลเพิ่มเติม
- จัดทำแบบสำรวจลูกค้าเกี่ยวกับเทรนด์ และนำเสนอผลการสำรวจที่ได้
- เป็นหุ้นส่วนด้านคอนเทนต์กับผู้คนที่มีอิทธิพลต่อกระแสนั้น ๆ หากพวกเขามีความเหมาะสมกับภารกิจของแบรนด์คุณ
- แชร์คอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมของคุณอีกครั้งผ่านทางโซเชียลเพื่อสร้างการรับรู้ผ่านการสื่อสาร
- ส่งอีเมลเพื่อนำเสนอสิทธิพิเศษที่อันเกี่ยวเนื่องกับเทรนด์ดังกล่าวโดยใช้หัวข้อที่สามารถดึงดูดให้ผู้รับเปิดอ่าน
- รายงานถึงกระแสที่กำลังมาผ่านการถ่ายทอดสดบนเฟซบุ๊ก Facebook live หรือผ่านการสัมภาษณ์สดผ่านสื่อออนไลน์
- รวบรวมคอนเทนต์น่าสนใจที่เกี่ยวข้องกับเทรนด์ดังกล่าว และเขียนข่าวสั้น ๆ ลงบนเว็บไซต์ที่อนุญาตให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้าไปโพสต์ได้ เช่น Buzzfeed หรือใน The Huffington Post
การนำเสนอคอนเทนต์ให้ถูกเวลานั้นเป็นกุญแจสำคัญในการใช้ประโยชน์จากเนื้อหาที่เกาะกระแส แม้ว่าการระบุหัวข้อที่เพิ่งเริ่มได้รับความสนใจอาจเป็นเรื่องยาก แต่การเป็นรายแรก ๆ ที่นำเสนอเรื่องราวพวกนี้จะช่วยให้แบรนด์ของคุณกลายเป็นผู้มีอิทธิพลต่อหัวข้อนั้น ๆ ได้เลยทีเดียว ตรงกันข้าม หากคุณเกาะกระแสไม่ทันชาวบ้าน แบรนด์ของคุณก็จะพลาดไข่มุกล้ำค่าในทะเลคอนเทนต์ไปอย่างน่าเสียดาย
การมีเครื่องมือที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยระบุแนวโน้มก่อนที่จะเผยแพร่คอนเทนต์เข้าสู่สื่อกระแสหลักนั้น เป็นกลยุทธ์ที่หลายแบรนด์ใช้ในการเข้าถึงความต้องการของลูกค้าท่ามกลางการแข่งขันของกระแสต่างๆ ด้วยเหตุนี้ แบรนด์ของคุณสามารถใช้ประโยชน์จากคอนเทนต์ในกระแสฮ็อตเพื่อสร้างการรับรู้ การมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า และความสนใจได้มากขึ้น ควบคู่ไปกับการวางแผนเชิงกลยุทธ์
หากจะถามว่า คุณควรจัดทำการแจ้งเตือนแบบไหนเพื่อจับกระแสน่ะเหรอ? ลองหาคำแนะนำเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากโซเชียลมีเดียเพื่อสร้างกลยุทธ์ของแบรนด์จากพีอาร์นิวสไวร์มาอ่านเพิ่มเติมสิ
ที่มา: พีอาร์นิวส์ไวร์