2 กูรู ด้านการประชาสัมพันธ์ การตลาด แนะกลยุทธ์การสื่อสารยุค 4.0 ในงานสัมนาวิชาการของนิสิตระดับปริญญาโท สาขาวิชานิเทศศาสตร์และสารสนเทศ (ภาคพิเศษ) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในหัวข้อ สื่อสารอย่างไรไม่ตกเทรนด์ยุค 4.0
เริ่มจากมุมมองของนักวิชาการกันก่อน โดยขอเริ่มที่ อาจารย์นพรัตน์ ทวีลาภ นักบริหารการตลาด และวิทยากรพิเศษ MBA คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวในงานสัมนาว่า เรามักจะคุ้นหูกับยุทธศาสตร์ประเทศ 3 คำ ที่ว่า มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ซึ่งในอนาคตเราจะได้ใช้ KPI (Key Performance Index) หรือ ตัวชี้วัดผลงาน ความสำเร็จ หรือล้มเหลวของงานนั้นๆ มาใช้ในด้านการสื่อสารเช่นกัน ซึ่งต้องมีการประเมินการใช้ว่าถูกหรือผิดนั้น ก็เพื่อประเมินการใช้งบประมาณในการสื่อสาร และสุดท้ายดูว่า การดำเนินการของเราเป็นไปตามเป้าหมายที่เราได้ตั้งไว้หรือไม่
การสื่อสารที่ดีที่สุด สุดท้ายเราต้องตั้งโจทย์ให้กับตัวเองให้ได้ว่า เราต้องการอะไร โดยเฉพาะปัจจุบันการสื่อสารจะเกี่ยวข้องกับการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อให้ชีวิตง่ายขึ้น เช่น สมาร์ทเพิร์ส บัตรเครดิต บัตรเครดิตวีซ่า ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องของการนำเทคโนโลยีสื่อสารมาใช้ ซึ่งจะมีการบันทึกข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับตัวเราเพื่อใช้ประโยชน์ในทางธุรกิจในอนาคต ซึ่งจะเห็นได้จากปัจจุบันที่ผู้คนนิยมซื้อของออนไลน์มากขึ้น และในปีนี้ ก็มีการซื้อของออนไลน์เพิ่มขึ้นเฉลี่ยถึง 59% ซึ่งเกิดจากใช้สมาร์ทโฟนเป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่โซเชียลมีเดีย อย่าง เฟซบุ๊ก ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย ว่ากันว่าในช่วง 2-3 ปีจากนี้ผู้บริโภคจะได้เห็นฟรอนต์เพจบนฟีดข่าวน้อยลงไปเรื่อยๆ แต่จะมีสิ่งทดแทนคือ วิดีโอ Live เพราะฉะนั้น นักประชาสัมพันธ์ หรือ การตลาดต้องวางแผน คิดกลยุทธ์ คิดโครงสร้าง วิเคราะห์ ให้ดีๆ
ปัจจุบัน เกิดกระแสไวรัล เกิดวิธีการสร้าง การจัดการว่า จะสื่อสารอย่างไรให้โฆษณานั้นๆ ทำให้คนเชื่อให้ได้ภายใน 3 วินาที "ง่ายๆ คือ 3 วินาที ต้องบอกได้ว่างานนี้สื่ออะไร ดีอย่างไร ราคา โปรโมชั่นมีอะไร การให้ข้อมูลความรู้ต้องตอบโจทย์" ไม่ว่าจะเป็นการทำอินโฟกราฟฟิค การใช้เซเลบริตี้ ผู้มีประสบการณ์มาใช้ในการสื่อสาร เนื่องจากปัจจุบันการสื่อสารมาในรูปแบบของ "วิดีโอ มาร์เก็ตติ้ง" ซึ่งปุ่ม Subscribe คือผู้ชม หรือผู้ติดตามนั้นๆสามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ รวมทั้งการ คอมเมนต์ ไลค์ แชร์ เหล่านี้ถือว่าเป็นจุดแข็งของการสื่อสารในรูปแบบวิดีโอ เพราะการสื่อสารรวดเร็วขึ้น ที่ผ่านมา เคยมีผลงานวิจัยในต่างประเทศบอกไว้ว่า การเห็นป้ายการสื่อสารต่างๆ 600-700 ครั้ง ไม่เท่าเพื่อนแนะนำเพียงครั้งเดียว
สำหรับมุมมองของ เอเจนซี่นั้น งานสัมนาได้เชิญ คุณณัฐพล ลียะวณิช หรือ คุณต่าย นักแสดงชื่อดัง กับในอีกบทบาทหนึ่งคือกรรมการผู้จัดการ บริษัท โมจิโต้ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทโปรดักชั่นทีวี ที่ครอบคลุมไปถึงงานประชาสัมพันธ์ อีเวนท์มาแชร์มุมมอง
คุณต่าย เปิดเผยว่า การทำพีอาร์สมัยใหม่บวกการตลาด ต้องมีการเพิ่มคุณค่าให้มากขึ้นทั้งด้านการบริการ หรือการสร้างแบรนด์ รวมทั้งต้องมีความรู้ เพื่อเพิ่มเม็ดเงินให้กับธุรกิจตัวเอง เพราะช่องทางสื่อที่เติบโตในปัจจุบันคือ เอาท์ ออฟ โฮม ตามระบบขนส่งต่างๆ จะมีการครีเอทมากขึ้น เช่น การโฆษณาบนรถไฟฟ้าบีทีเอส รวมทั้ง อินเทอร์เน็ต เรื่องของระบบออนไลน์ วิทยุ ที่ปรับรูปแบบการฟังให้อยู่ในรูปแอปพลิเคชั่น เช่น JOOX เฟซบุ๊ก ไลน์ ช่องทางเหล่านี้ทำให้การพีอาร์เข้าถึงผู้คนได้มากขึ้น โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ ข้อดีคือสามารถครีเอทได้หลากหลายเป็นสื่อที่ทำเงินได้เยอะ และมีความแข็งแกร่ง อาทิ ไวรัลคลิปต่างๆ ขณะที่ขึ้นผู้บริโภคมักอ่านและดูสินค้าต่างๆ ผ่านมือถือกันมากขึ้นด้วย ดังนั้นการทำพีอาร์จะต้องมองช่องทางให้ถูกต้อง
ปัจจุบันการทำพีอาร์ หรือ การสื่อสารปรับเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง? คุณต่าย กล่าวว่า เปลี่ยนในเรื่องของความครีเอทีฟบวกกับเทคโนโลยี ซึ่งถ้าเราได้ดูแลเรื่องเหล่านี้แล้ว จากนั้นค่อยมาเลือกช่องทางการสื่อสารไปให้ถึงกลุ่มลูกค้าหรือคนที่เราจะสื่อถึง สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ เราต้องรู้ว่าคนที่รับสารเรานั้นคือใคร 2.ต้องรู้ว่า คอนเทนต์ ควรเป็นแบบไหนที่ลูกค้าหรือผู้รับสารนั้นสามารถเข้าใจได้ง่าย ซึ่งเราต้องนำมารวมกันให้ชัดเจน
ด้วยเหตุนี้ ช่องทางการพีอาร์ในยุค 4.0 หรือในปีต่อๆไป จะมีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ สิ่งสำคัญ เราต้องรู้ว่าเราจะทำพีอาร์ให้ใคร เพราะสื่อเองก็จะมีมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น ทีวิดิจิทัล ก็จะเกิดช่องใหม่ๆ มากขึ้น อยู่ที่ว่า "คอนเทนต์" ใครน่าสนใจช่องนั้นก็จะได้ร้บความนิยมมากขึ้น