ในยุคที่ชีวิตประจำวันของผู้คนยึดอยู่กับสื่อสังคมออนไลน์หรือโซเชียลมีเดีย กระทั่งแพลตฟอร์มดังกล่าวกลายเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลข่าวสารต่างๆที่เสิร์ฟถึงมือผู้ใช้โดยแทบไม่ต้องขยับไปไหน เพราะโลกทั้งใบอยู่แค่ปลายนิ้วจิ้ม สื่อดั้งเดิมถูกลดบทบาทลงแทนที่ด้วยสื่อออนไลน์ ส่งผลให้บุคคลทั่วไปสามารถเป็น influencer ที่มีอิทธิพล ขับเคลื่อนกระแสสังคม และก่อเกิดเป็นชุมชนขนาดใหญ่
สมาคมผู้กำกับศิลป์บางกอกจัดงาน B.A.D TALKS 2016 ขึ้น ในวันพุธที่ 30 พ.ย. 2559 ณ โรงภาพยนตร์ SF Worlds Cinema ศูนย์การค้าเซนทรัลเวิลด์ โดยเรียนเชิญเจ้าของเพจเฟซบุ๊กที่มีอิทธิพลในแวดวงสื่อสังคมออนไลน์ประเทศไทย 3 ท่าน ได้แก่ คุณชา เจ้าของเพจ “Low Cost Cosplay," คุณอนุชิต คำน้อย เจ้าของเพจ “คิ้วต่ำ," และคุณเมฆ ซักเกอร์เบิร์ก เจ้าของเพจ “สัตว์โลกอมตีน" รวมถึงคุณเบนซ์ ธนชาติ ศิริภัทราชัย ผู้เขียน New York 1st Time และหนังสือขายดีหลายเล่ม และครีเอทีฟมือวางอันดับหนึ่งแห่ง Salmon House บริษัทภาพยนตร์โฆษณาที่มีคาแร็กเตอร์เป็นลายเซ็นอยู่บนผลงานทุกชิ้น มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์การทำงานและการสร้างสื่อที่ดึงดูดความสนใจในวงกว้าง
ในช่วง "งานสบายรายได้" ดำเนินรายการโดย คุณอิฐ สุขธงไชยกูล Creative Group Head, Ogilvy & Mother Thailand
- จุดเริ่มต้นของการสร้างเฟซบุ๊กแฟนเพจคืออะไร
คุณอนุชิตเผยว่า ในช่วงแรก ตนต้องการสร้างพื้นที่จัดเก็บผลงานภาพวาดที่สเก็ตลงบนสมุดบันทึก เพื่อนำไปสมัครงาน ขณะที่ คุณชากล่าวว่า ปกติเขาเป็นคนที่ชอบสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ วันหนึ่งได้ลองนำเอาของใช้ใกล้ตัวมาใส่ถ่ายรูปแล้วกลายเป็นที่ชอบอกชอบใจในหมู่เพื่อนฝูง จากนั้นเขาจึงทดลองแต่งตัวเลียนแบบคาแร็กเตอร์ต่างๆมาเรื่อยๆและนำมาสู่การเปิดเฟซบุ๊กแฟนเพจในที่สุด โดยคุณชากำหนดคอนเซปต์เพจเป็นการคอสเพลย์ที่ไม่ต้องมีต้นทุนสูง เพียงแค่นำข้าวของเครื่องใช้รอบตัวมาประยุกต์เข้ากับความคิดสร้างสรรค์เท่านั้น
ด้านคุณเมฆระบุว่า จุดกำเนิดของเพจคือ การแบ่งปันอารมณ์ขันและไลฟ์สไตล์ของตัวเองที่เป็นคนชอบเล่นมุกตลกที่ไม่ได้มีชั้นเชิงมากมาย แต่กลับสร้างรอยยิ้มให้แก่ผู้อ่านได้
สำหรับการสร้างสรรค์ผลงานนั้น แต่ละคนก็จะมีวิธีการแต่งต่างกันออกไป ซึ่งคุณชากล่าวว่า เขาจะหมั่นสังเกตสิ่งต่างๆรอบตัว แล้วจินตนาการดูว่าวัตถุนั้นๆสามารถนำมาดัดแปลงเป็นอะไรได้บ้าง โดยไม่นำจุดประสงค์การใช้งานของวัตถุมาตีกรอบความสร้างสรรค์ของตัวเอง
ขณะที่คุณอนุชิตเผยว่า เขานำความรู้สึกที่เป็นสากลในชีวิตประจำวันของทุกคนมาสร้างเนื้อหา และนำเสนอผ่านภาพวาด พร้อมพัฒนารูปแบบการนำเสนอให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ด้านคุณเมฆ เจ้าของเพจมุกตลกที่มีผู้ติดตามหลักล้านเผยว่า เขากำหนดให้เพจมีเนื้อหาเกี่ยวกับสัตว์และการเล่นคำ เนื่องจากสัตว์เป็นสื่อที่เข้าถึงง่ายและสามารถเชื่อมผู้คนได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกันก็จะเล่นกับกระแสในสังคม และกำหนดให้ตัวสล็อตเป็นมาสค็อต เพื่อสร้างแบรนด์ดิ้งให้กับเพจ
- แต่ละคนมีวิธีกระตุ้นไอเดียของตนเองอย่างไร?“
คุณอนุชิตเผยว่า เขาจะต้องเดินทางออกไปข้างนอกบ้านและสังเกตการดำเนินชีวิต เพื่อเสพความรู้สึกของผู้อื่oเนื่องจากเพียงตัวเขาเพียงคนเดียวไม่สามารถมีความรู้สึกหลากหลาย แตกต่างจากคุณชาที่เผยว่า เขาจะพยายามตีความจากสิ่งของรอบตัวหรือของใช้ภายในห้องโดยไม่ต้องเดินทางออกไปข้างนอก
- แนวทางการรับงานโฆษณาในเพจ
คุณชากล่าวว่า เขาและลูกค้าจะพบกันคนละครึ่งทาง โดยเขาจะนำความต้องการของลูกค้ามาปรับให้สอดคล้องกับจุดยืนของเพจและตัวเอง คุณอนุชิตกล่าวว่า เขาจะตกลงรายละเอียดต่างๆกับลูกค้าให้ชัดเจน และพิจารณาว่าสินค้าของลูกค้านั้นเหมาะสมกับเพจหรือไม่
ในช่วงท้าย คุณเมฆและคุณชาได้ฝากข้อคิดสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างเพจว่า เราจะต้องเข้าใจลักษณะของตัวเอง ต้องให้คุณค่ากับตัวเองและทรัพย์สินทางปัญญา ไม่ควรลอกเลียนแบบคาแรกเตอร์ของผู้อื่นเพื่อเอาใจลูกค้าหรือแฟนเพจ และที่สำคัญอย่าเชื่อคนอื่นมากกว่าตัวเอง
ทำคอนเทนต์อย่างไรให้โดนใจคนดูกับ "เบนซ์" ธนชาติ ศิริภัทราชัย ครีเอทีฟอันดับหนึ่งจาก Salmon House
เรียกได้ว่านาทีนี้ไม่มีใครไม่รู้จัก “Salmon House" สำนักพิมพ์น้องใหม่มาแรงที่ใครหลายคนน่าจะรู้จักจากคลิปวิดิโอไวรัลสุดจี๊ดอย่าง “BKK 1st Time" ที่มียอดวิวแตะหลักล้านภายในเวลาเพียงแค่วันเดียว แต่สิ่งที่ใครหลายๆคนอาจจะยังไม่ทราบกันคือ เบื้องหลังวิดีโอสุดแสบนี้เกิดจากความคิด การถ่ายทำ และฝีมือการตัดต่อของคนคนเดียวนั่นคือ “คุณเบนซ์" ธนชาติ ศิริภัทราชัย ครีเอทีฟอันดับหนึ่งจาก Salmon House
คุณเบนซ์เล่าให้เราฟังว่า จุดเริ่มต้นของการทำคลิปวิดิโอซีรีย์ “BKK 1st Time" นั้น มาจากความตั้งใจที่เขาอยากจะโปรโมทหนังสือ NEW YORK 1st TIME ของตัวเองด้วยวิธีการที่ไม่จำเจและเข้าถึงคนดูได้ง่าย เขาจึงลองทำคลิปที่บอกเล่าถึงประสบการณ์คัลเจอร์ช็อคที่เกิดขึ้นกับ "ลุงเนลสัน" หนุ่มใหญ่จากนิวยอร์กเมื่อครั้งอาศัยอยู่ในประเทศไทย
หากถามว่าอะไรเป็นเหตุผลที่ทำให้คลิปนี้ประสบความสำเร็จภายในชั่วข้ามคืน คุณเบนซ์มองว่า เพราะคลิปดังกล่าวกำลังพูดความจริงกับคนดู จากปกติที่เราจะเห็นคลิปของฝรั่งในมุมมองที่มีต่อประเทศไทยในแง่บวก เช่น อาหารอร่อย สาวไทยสวย คนไทยใจดี คุณเบนซ์กลับเลือกเสนอสิ่งที่เราเจอในชีวิตประจำวันทั่วไป พร้อมสอดแทรกมุกตลกลงไปให้คนดูรู้สึกตลกจนต้องร้องว่า เฮ้ย ที่ฝรั่งพูดมันจริงหว่ะ! ซึ่งแม้จะเป็นแง่ที่ไม่สวยงาม หรือมีคำหยาบบ้าง แต่นั่นก็เป็นหนึ่งในวิธีที่คุณเบนซ์ใช้เพื่อสร้างความสนิทสนมกับผู้บริโภคนั่นเอง
แน่นอนว่าการทำคลิปให้โด่งดังจนกลายเป็น “ไวรัล" นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย คุณเบนซ์เองมองว่า ไม่มีอะไรสามารถการันตีได้เลยว่าคลิปนั้นจะ “ไวรัล" หรือ “ไม่ไวรัล" หลังจากที่ถูกปล่อยออกมา แต่สิ่งที่คุณเบนซ์ยึดเป็นหลักในการทำงานทุกงานคือ การหยิบยกเรื่องราวใกล้ตัวผู้บริโภคมาสร้างสรรค์เป็นคอนเทนต์สนุกๆ เพราะการทำคอนเทนต์ในอินเทอร์เน็ตแตกต่างในการทำโฆษณาทีวีซึ่งคนดูมักคาดหวังจะเห็นความเนี๊ยบ หรือได้เห็นดาราสวยๆหล่อๆ แต่ในอินเตอร์เน็ตนั้นคนต้องการความจริง ต้องการคนที่จะมาพูดแทนในสิ่งที่พวกเขาคิด ถ้าคนทำคอนเทนต์สามารถตีโจทย์ตรงนี้ได้ เนื้อหาที่สื่อออกมาจะกินใจผู้ชมและการเกิดแชร์ต่อไปเรื่อยๆเอง
สุดท้าย คุณเบนซ์ได้ฝากไว้ว่า หากอยากทำคอนเทนต์ให้โดนใจลูกค้า ต้องพยายามคิดถึงลูกค้าให้มากๆ และสร้างเนื้อหาของคอนเทนต์ให้มีความเชื่อมโยงกับคนหมู่มาก เพื่อทำให้คนดูรู้สึกว่าเราคือเพื่อนที่กำลังเล่าความจริงให้ฟัง และเปิดใจรับสิ่งที่เราต้องการจะสื่อออกไป