สมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) หรือ Digital Advertising Association (Thailand) (DAAT) ร่วมกับ กันตาร์ ประเทศไทย บริษัทวิจัยชั้นนำ คาดการณ์ว่า เม็ดเงินลงทุนผ่านสื่อดิจิทัลปี 2562 จะขยายตัว 16% แตะ 20,000 ล้านบาท ขณะที่ผลการสำรวจมูลค่าเม็ดเงินลงทุนผ่านสื่อดิจิทัล พบว่า การใช้จ่ายผ่านสื่อดิจิทัลมีมูลค่าสูงถึง 17,000 ล้านบาทในปี 2561 คิดเป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น 36% จากมูลค่า 12,400 ล้านบาท ในปี 2560
กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ (2,361 ล้านบาท) กลุ่มการสื่อสาร (1,925 ล้านบาท) กลุ่มสกินแคร์ (1,454 ล้านบาท) กลุ่มเครื่องดื่มปราศจากแอลกอฮล์ (1,148 ล้านบาท) และกลุ่มธุรกิจธนาคาร (1,080 ล้านบาท) เป็น 5 กลุ่มอุตสาหกรรมหลักที่ลงเงินในการโฆษณาดิจิทัลมากที่สุดในปี 2561 ที่ผ่านมา
ส่วนกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการใช้เม็ดเงินโฆษณาดิจิทัลเพิ่มเป็นมูลค่าสูงที่สุดในปี 2561 เทียบจากปี 2560 คือ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์มีค่าใช้จ่าย 585 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 114% ตามด้วยกลุ่มร้านค้าปลีก ที่มีค่าใช้จ่าย 701 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 111%
สำหรับมูลค่าเม็ดเงินลงทุนผ่านสื่อดิจิทัลในปี 2562 นี้ สมาคมโฆษณาดิจิทัลฯ และ กันตาร์ ประเทศไทย คาดการณ์ว่า กลุ่มอุตสาหกรรมหลักที่จะลงทุนในสื่อดิจิทัลมากที่สุด 5 ลำดับแรกนั้น จะยังคงเป็นอุตสาหกรรมเดิม ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ (2,783 ล้านบาท) กลุ่มการสื่อสาร (2,115 ล้านบาท) กลุ่มสกินแคร์ (1,753 ล้านบาท) กลุ่มธุรกิจธนาคาร (1,396 ล้านบาท) และ กลุ่มเครื่องดื่มปราศจากแอลกอฮอล์ (1,239 ล้านบาท)
อุตสาหกรรมกลุ่มค้าปลีกจะเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่คาดการณ์ว่าเติบโตขึ้นในอัตราที่สูงที่สุดในปี 2562 โดยจะเติบโตมากขึ้น 47% คิดเป็นเม็ดเงิน 1,029 ล้านบาท ตามด้วยกลุ่มธุรกิจธนาคารที่ถูกคาดการณ์ว่า จะเติบโตมากขึ้น 29% คิดเป็นมูลค่า 1,396 ล้านบาท
คุณราชภักดิ์ อัศวศุภชัย กรรมการสมาคมฯเปิดเผยว่า จากการที่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้เสิร์ช (Search) เติบโตตามไปด้วย เนื่องจากกลุ่มลูกค้านิยมเสิร์ชหาข้อมูลก่อนที่จะตัดสินใจซื้อสินค้า โดยเสิร์ชหารีวิวจากเว็บเฉพาะทางและโซเชียลมีเดีย ดังนั้น เสิร์ชจึงเป็นสื่อที่มีความสำคัญมากขึ้นในปีนี้
สาเหตุที่ทำให้ Facebook ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องนั้ เนื่องมาจาก Facebook มีฐานผู้ใช้งานจำนวนมากในประเทศไทย นอกจากนี้ โซลูชั่นทางการตลาด และ Data Insights ของ Facebook ยังตอบโจทย์ให้กับนักการตลาด แม้ว่า Facebook อาจจะมีข้อจำกัดในเรื่องการวัดผลที่อาจจะไม่โปร่งใส แต่เมื่อมองในเรื่องของความคุ้มค่าและการเข้าถึงแล้ว Facebook จึงเป็นสื่อที่ยังมีการใช้งานอยู่
ขณะที่ ดร.อาภาภัทร บุญรอด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กันตาร์ อินไซท์ ประเทศไทย ให้ความเห็นว่า การเติมโตของ เสิร์ช นั้นสอดคล้องกับข้อมูลจากการทำวิจัยของกันตาร์ที่พบว่าผู้บริโภคในปัจจุบันมักจะทำการค้นคว้าหาข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อสินค้า และบริการต่างๆ
สำหรับแพลตฟอร์มโฆษณาออนไลน์ที่เติบโตดีที่สุดในปี 2561 ที่ผ่านมานั้น ได้แก่ ไลน์ (Line) ซึ่งพุ่งขึ้นถึง 90% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และคาดว่าจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในปีนี้ เนื่องจากไลน์มีบริการที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น LINE TIMELINE, LINE TODAY, LINE TV, LINE MAN และ LINE GAME ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทุกเพศทุกวัย ส่งผลให้เม็ดเงินโฆษณาไหลเข้าไลน์เป็นจำนวนมากเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ ที่ไม่หลากหลายเท่า
คุณพัชรี เพิ่มวงศ์อัศวะ กรรมการสมาคมฯ กล่าวว่า ในปี 2562 ทาง Publisher จะนำ AI หรือ Machine Learning มาใช้งานกันมากขึ้น โดยนำมาใช้เพื่อการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย เพื่อจะส่งข้อมูลที่ตรงตามที่เป้าหมายต้องการ เป็นการดึงให้กลุ่มเป้าหมายเข้ามาใช้งานผลิตภัณฑ์ของตัวเอง เช่น Google ทำการใช้ Machine Learning เพื่อดูว่าการใช้คำค้นคำใดที่จะช่วยกระตุ้นให้คนเข้ามาที่หน้าร้าน หรือ Youtube ที่ใช้ Machine Learning มาแบ่งกลุ่มผู้ใช้ หากลุ่มที่จะให้การตอบสนองต่อโฆษณาที่สุด เพื่อให้สามารถส่งโฆษณาได้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น
ทางด้านคุณราชภักดิ์ มองว่า ในปี 2562 จะมีการทำกิจกรรมและแคมเปญที่สร้าง Engagement และสามารถสร้างการรับรู้ (Awareness) ควบคู่กันไปด้วยมากขึ้น เพราะแคมเปญที่สามารถสร้างกระแสได้จะสามารถดึงกลุ่มเป้าหมายเข้ามาจนสามารถดึงกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้ให้ไปยังสินค้าได้
ดร.อาภาภัทร กล่าวว่า แพลตฟอร์มการวิเคราะห์ข้อมูลหรือ Data analytic platform ตลอดจนอีคอมเมิร์ซ และเรียลไทม์มีเดีย เครื่องมือในการมอนิเตอร์ Social Listening จะได้รับความนิยมมากขึ้น
นอกจากนี้ ความร่วมมือในส่วนของแพลตฟอร์มซื้อของออนไลน์และแบรนด์จะออกมาในรูปแบบของความร่วมมือกัน เช่น แพลตฟอร์มซื้อของออนไลน์ชื่อดังอย่าง Lazada หรือ JD นั้น ได้เปิดทางให้แบรนด์เข้ามาใช้ API เพื่อโปรโมทสินค้าและผลิตภัณฑ์ของแบรนด์เองได้ โดยใช้ฐานข้อมูลของลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายไปทำแคมเปญ ด้วยเหตุนี้ แบรนด์จึงได้ประโยชน์จากข้อมูลและเครื่องมือจากแพลตฟอร์มมาก