สำหรับผู้ที่เล่นโซเชียลมีเดียเป็นประจำทุกวัน คงจะไม่มีใครที่ไม่รู้จักชื่อของ "TikTok" แอปพลิเคชันคลิปวิดีโอสั้นสัญชาติจีนที่มาแรงจนขึ้นแท่นแอปพลิเคชันอันดับ 1 ของโลกในปีที่แล้ว Tik Tok แอปพลิเคชันประสบความสำเร็จอย่างล้มหลามในระยะเวลาอันรวดเร็วได้อย่างไร
สุรยุทธ์ เอี่ยมละออง ตัวแทนจากฝ่ายการตลาดของ TikTok ประเทศไทย ได้ตั้งคำถามที่น่าสนใจให้กับผู้ร่วมฟังการสัมมนาเวที Techsauce Global Summit 2019 ว่า "หากมีเวลาแค่ 15 วินาที คุณคิดจะทำอะไร" แม้บางคนอาจจะมองว่าช่วงเวลาสั้น ๆ แค่นี้จะเอาไปใช้ทำอะไรได้ แต่นั่นไม่ใช่คำตอบของชุมชนผู้ใช้งาน TikTok กลุ่มคนธรรมดาที่สามารถสร้างคอนเทนต์วิดีโอสุดสร้างสรรค์ออกมาให้ผู้ชมทั่วโลกได้เพลิดเพลินกันอย่างแน่นอน
TikTok เป็นแอปพลิเคชันที่เปิดให้ผู้ใช้งานสามารถถ่ายคลิปวิดีโอสั้น ๆ ด้วยเวลาจำกัดที่ 15 วินาที โดยมีฟีเจอร์สนุก ๆ ให้ผู้ใช้งานได้เลือกเล่นกันอย่างจุใจ ไม่ว่าเป็นตัวช่วยตัดต่อวิดีโอ การแปะสติ๊กเกอร์น่ารัก ๆ เพิ่มความโดดเด่น คลังเพลงประกอบซึ่งเป็นลูกเล่นสำคัญที่ทำให้วิดีโอของผู้ใช้งานมีความสนุกสนาน รวมถึงการเพิ่มสเปเชียลเอฟเฟกสนุก ๆ ซึ่งมีเทคโนโลยีอัจฉริยะอย่าง AI และ AR อยู่เบื้องหลังความสามารถในการตรวจจับความเคลื่อนไหวของผู้ใช้งานได้ตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า โดยคอนเทนต์ของ TikTok มีหลากหลายประเภทให้ผู้คนได้เลือกดูกันตามความชอบส่วนตัว แต่คอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมที่สุดเห็นจะหนีไม่พ้นคลิปของเซเลบริตี้ชื่อดัง คลิปเต้น คลิปตลกขบขัน และคลิปสัตว์โลกน่ารักนั่นเอง
ด้วยความสามารถในการพัฒนาฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานยุคดิจิทัลได้ในหลายรูปแบบ อีกทั้งคอนเทนต์ที่มีความต่างและสนุกสนาน ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้ TikTok สามารถครองใจผู้ใช้งานในหลายประเทศ
ทั้งนี้ TikTok ถือเป็นแอปพลิเคชันที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด เพราะนับตั้งแต่การเปิดตัวในเดือนสิงหาคม 2560 TikTok ก็ใช้เวลาแค่เพียง 5 เดือนในการไต่ขึ้นมาเป็นแอปพลิเคชันที่มียอดการดาวน์โหลดอันดับหนึ่งบน App Store ประเทศไทย ก่อนที่จะขึ้นแท่นแอปพลิเคชันที่มียอดการดาวน์โหลดอันดับหนึ่งของสหรัฐในเดือนตุลาคม 2561 และคว้าแชมป์แอปพลิเคชันยอดฮิตในระบบ IOS ในไตรมาส 1 ปี 2562 ในปัจจุบัน TikTok มีผู้ใช้งานแล้วมากกว่า 150 ประเทศและภูมิภาค โดยมีการผลิตคอนเทนต์มากถึง 75 ภาษา และมีสำนักงานกระจายตัวอยู่ 50 แห่งทั่วโลก สะท้อนให้เห็นถึงกระแสความนิยมของคนในยุคปัจจุบันที่ชื่นชอบการเสพคอนเทนต์วิดีโอที่ย่อยง่าย ในยุคที่ใคร ๆ ก็สามารถผลิตคอนเทนต์เจ๋ง ๆ ได้เพียงแค่หยิบสมาร์ทโฟน
นอกจากการผลิตคอนเทนต์เพื่อความบันเทิงแล้ว นักการตลาดยังสามารถใช้ TikTok เพื่อเป็นช่องทางในการสร้าง engagement กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย เนื่องจากกระบวนการขายสินค้าของ TikTok เป็นมากกว่าการไทด์อินธรรมดา แต่ทางแบรนด์สามารถสร้างความท้าทายหรือแคมเปญให้ผู้ใช้งานอัดคลิปสนุก ๆ ของตัวเองเพื่อแลกกับของรางวัลได้ ยกตัวอย่างเช่นความร่วมมือระหว่าง TikTok กับ Big Mountain Music Festival เทศกาลดนตรีที่วัยรุ่นไทยตั้งตารอมากที่สุดแห่งปี โดยทาง TikTok ได้สร้างแคมเปญ #มันเว่อร์มาก ให้ผู้ใช้งานมาร่วมสนุกกัน เพียงแค่อัดวิดิโอคลิปสั้นๆ บน TikTok ตามตัวอย่างที่มีให้ แล้วแชร์ลงบนเฟซบุ๊ก ก็สามารถลุ้นรับบัตรเข้างานได้ทันที ซึ่งผลลัพธ์คือมีผู้เข้าเล่นมากกว่า 30,000 คลิป และมียอดรับชมสูงถึง 7 ล้านครั้ง ท้ายที่สุด ได้กลายเป็นกระแสไวรัลไปทั่วโลกออนไลน์ในขณะนั้น
คงต้องจับตาดูกันต่อไปว่า อนาคตของ TikTok จะเป็นอย่างไรในปีนี้ และจะมีใครที่สามารถโค่นแชมป์แอปพลิเคชันจากบริษัทสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นนี้ได้หรือไม่