Media Talk: ผู้บริหาร Yell Advertising และ Accenture Song แชร์มุมมองการเติบโตจาก Local สู่ Global

ข่าวทั่วไป Wednesday March 26, 2025 15:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

Media Talk: ผู้บริหาร Yell Advertising และ Accenture Song แชร์มุมมองการเติบโตจาก Local สู่ Global

ดิศรา อุดมเดช ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Yell Advertising สุนาถ ธนสารอักษร กรรมการผู้จัดการ Accenture Song ได้บอกเล่าเรื่องราวและข้อคิดเกี่ยวกับการทำงานตั้งแต่ระดับ Local ไปจนถึง Global ในหัวข้อ Agencies vision: Martech Insights from Local to Global ที่งาน MARTECH TECHNOLOGY & INNOVATION EXPO 2025 โดยมี พงษ์ปิติ ผาสุขยืด ซีอีโอ Ad Addict เป็นผู้ดำเนินรายการ

คุณสุนาถ จาก Accenture Song เปิดเผยถึงการเริ่มต้นตั้งแต่เมื่อปี 2010 ว่า ได้ตั้งบริษัทชื่อว่า Rabbit Tail และในปี 2016 AOI TYI Holdings ก็ได้เข้ามาซื้อกิจการ จนในปี 2022 มีการรีแบรนด์เป็น Experience Agency และควบรวมกับ Accenture Song โดยบริษัทมาถึงจุดนี้ได้ด้วยการทำงานให้ดี ให้คนรู้จักเราจากผลงานที่เราทำจนสามารถก้าวมาสู่ระดับโลก

Media Talk: ผู้บริหาร Yell Advertising และ Accenture Song แชร์มุมมองการเติบโตจาก Local สู่ Global

ในขณะที่คุณดิศรา เปิดเผยว่า หลังจากที่ Yell ได้ให้บริการมาเป็นเวลา 15 ปี ก็มองว่า งบประมาณของตลาดในไทยมักจะรวมศูนย์อยู่ที่กรุงเทพฯ และคิดว่า บริษัทก็เติบโตมาได้จากทีมงาน จะทำอย่างไรให้พนักงานอยู่ได้นาน ดังนั้น จึงได้คิดหาหนทางที่จะขยายกิจการ ด้วยการเปิดสำนักงานที่สิงค์โปร์ หลังจากนั้นจึงได้เปิดสำนักงานเพิ่มเติมในประเทศต่าง ๆ โดยตนเองประจำการอยู่ที่เซี่ยงไฮ้

ส่องวิถีจาก Local สู่ Global

คุณดิศรา จาก Yell ตอบคำถามเกี่ยวกับแนวทางในการขยายกิจการจาก Local สู่ Global ว่า เราต้องมีเข็มทิศก่อนว่าจะไปที่ไหนและทำอะไร โดยกล่าวถึงแบรนด์ต่าง ๆ ในจีนที่อยากขยายกิจการไปยังจุดอื่น ๆ เนื่องจากสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ เศรษฐกิจจีนและการซื้อในประเทศที่ลดน้อยลง แต่จีนเป็นประเทศที่สามารถผลิตได้มาก จีนจึงต้องการขยับขยายกิจการ เช่น การย้ายมาผลิตรถที่ไทย ซึ่งเป็นรถพวงมาลัยขวา แม้ว่า จะผลิตที่ไทยแต่ก็สามารถเซิร์ฟตลาดประเทศอื่นที่ใช้รถพวงมาลัยขวาได้ด้วยเช่นกัน

Media Talk: ผู้บริหาร Yell Advertising และ Accenture Song แชร์มุมมองการเติบโตจาก Local สู่ Global

นอกจากนี้ การเปิด Flagship stores ในไทยที่มี Visitor เยอะ ก็จะทำให้ผู้ที่เดินทางมาเยือนไทยหรือนักท่องเที่ยวได้เห็นว่า แบรนด์ใน Flagship stores เป็นแบรนด์ระดับสากล ซึ่งหากหาโลเคชั่นได้แล้วก็จะสามารถประเมินการลงทุนได้ หลังจากนั้นก็ปรับตัวให้สอดคล้องกับตลาด ที่สำคัญเราถนัดเกมไหนเราก็เลือกเกมนั้น รวมทั้งเลือกเงื่อนไขที่เหมาะสมกับเรา

ในขณะที่คุณสุนาถ กล่าวถึงแนวทางในการทำงานว่า Accenture จะทำงานให้ดีที่สุด ตอบโจทย์ลูกค้า โดยการขยับโพสิชั่นนั้นมีหลายรูปแบบ พอเรามีบริษัทญี่ปุ่นเป็นพันธมิตร เราก็จะดูในสิ่งที่เราเชี่ยวชาญและโฟกัสความเป็นคนไทยแล้วแชร์สิ่งเหล่านี้ให้สาขาในเครือข่าย เมื่อถึงยุคของ Martech ที่ช่วยสร้างพลังให้กับทุกฝ่าย ก็ต้องมาดูว่าเราทำอะไรได้หรือไม่ได้บ้าง แต่เราจำเป็นต้องแข็งแกร่งกว่าเดิม ดังนั้นต้องหาพาร์ทเนอร์ และเราก็เลือกไปกับ Accenture Song เพราะเราเห็นความสามารถของเค้า

Media Talk: ผู้บริหาร Yell Advertising และ Accenture Song แชร์มุมมองการเติบโตจาก Local สู่ Global
วิธีการทำงานที่เปลี่ยนแปลงไป

คุณสุนาถ กล่าวถึงแนวทางการทำงานหลังจากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ Accenture Song ซึ่งเป็นบิสิเนสยูนิตที่รับผิดชอบลูกค้าทั้งหมด ต้องดูแลในเรื่องของการ Connect ผู้คน จึงให้ความสำคัญกับความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) เทคโนโลยีและดาต้า (Technology & Data) รวมทั้งกลยุทธ์

ทางด้านคุณดิศราได้แชร์มุมมองในการทำงานของ Yell ว่า หากมองเรื่องไฟร์วอลล์ของจีนแล้ว ในมุมหนึ่งก็คือการบล็อกไม่ให้ต่างประเทศเข้ามา แต่ในอีกมุมหนึ่งคือการบล็อกคนจีนไม่ให้ออกไปข้างนอก ด้วยระบบพื้นฐานที่เป็นแบบนี้จึงทำให้เติบโตได้ยาก โดยยกตัวอย่างของลูกค้าซึ่งเป็นบริษัทรถออฟโรดของจีนที่จ้างบริษัทให้ทำตลาดในตะวันออกกลาง เราก็ใช้ดาต้าและ Social listening แล้วพบว่า รถออฟโรดญี่ปุ่นขายดีที่ตะวันออกกลางซึ่งให้ความสำคัญกับเรื่องสมรรถนะ เราก็มาคิดว่าจะวาง Positioning ยังไง ทั้งที่รถออฟโรดของจีนเจ้านี้ อดีตผู้นำของจีนเคยใช้งานมาก่อน แต่เราก็มาได้ข้อสรุปในการวางโพสิชั่นให้เป็นพาหนะสำหรับคนที่อยากสร้าง Legacy ให้กับตัวเอง เราก็รีเสิร์ชก่อนที่จะไปร่วมมือกับพันธมิตรในพื้นที่

ท้ายที่สุด ผู้บริหารของทั้ง 2 บริษัทได้ให้คำแนะนำแก่ผู้เข้าร่วมงาน โดยคุณสุนาถ กล่าวว่า เวลาที่จะนำ Martech มาประยุกต์ใช้เพื่อทำงานให้ลูกค้า เราก็ต้องเลือกที่เหมาะสมให้กับลูกค้า ซึ่งวิธีการทำงานและการเซ็ตทีมงานเป็นสิ่งที่สำคัญ

ส่วนคุณดิศรา กล่าวถึงเทคโนโลยีของจีนว่า จีนมักจะมีเทคโนโลยีที่ว้าว ซ่า และใช้เวลาในการพัฒนาเทคโนโลยีสั้น ให้บริการในราคาที่เป็นมิตร มีสิ่งที่ทำได้ดีคือ CRM เช่น วีแชทที่ถือเป็นซูเปอร์แอพ ซึ่งถ้าเราเข้าใจ Customer journey ก็จะช่วยอัพเซลได้ และยังได้สรุปโดยเปรียบเทียบ Innovation tool ของจีนกับตะเกียบ ถ้าอยากใช้ตะเกียบให้เก่ง จะเห็นได้ว่า ตะเกียบข้างหนึ่งจะตั้งเป็นเส้นตรง ดังนั้น เวลาทำงานต้องมีเป้าหมายและพื้นฐานที่มั่นคงแข็งแรง ในขณะที่ตะเกียบอีกข้างจะเอียง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า การทำงานอีกด้านก็ควรจะมีความยืดหยุ่นสามารถเปลี่ยนแปลงไปตามเทรนด์และเวลาด้วยเช่นกัน


แท็ก ซีอีโอ  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ