PR Interview: มุมมอง กัณฐิกา พีอาร์เอเจนซี่วัยใส มองลูกค้าคือเพื่อน-ต้องไม่หยุดเรียนรู้

ข่าวทั่วไป Friday February 10, 2017 14:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัปดาห์นี้ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ พีอาร์เอเจนซี่วัยใส หนึ่งในทีมงานของ JCPR ที่มีมุมมองความคิดไม่ธรรมดา ด้วยการมองลูกค้าว่าคือเพื่อน พร้อมกับสร้างความน่าเชื่อถือ ให้ความไว้วางใจ กับความภูมิใจที่ได้มีส่วนในการพีอาร์เผยแพร่การจัดทำแสตมป์ iStamp รวมถึงบัตรภาพในหลวงรัชกาลที่ 9 จากประสบการณ์ทำงานที่ผ่านมาทำให้รู้ว่า วงการพีอาร์เอเจนซี่ยังเติบโตได้อีก

กัณฐิกา ไกยราช หรือคุณเล็ก เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ JC&CO Public Relations Co. Ltd. (JCPR) ให้บริการครบด้านการประชาสัมพันธ์ การสื่อสารการตลาด และสื่อ เล่าว่า ได้ร่วมงานพีอาร์ให้กับบริษัท เอเจนซี่ เข้าสู่ปีที่ 3 แล้ว ที่ผ่านมามีโอกาสได้ร่วมงานกับลูกค้าที่หลากหลาย ทั้งหน่วยงาน ภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ สถาบันการศึกษา อาทิ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ รวมทั้ง สถาบันการศึกษา จนมาถึงวันนี้ทำให้ตัวเรารู้สึกชอบ และสนุกกับอาชีพนี้ เพราะว่า งานพีอาร์มีอะไรให้คิด และต้องมีความแอคทีฟในตัวเองตลอดเวลา

ขณะที่ความภาคภูมิใจสูงสุด คือ การที่ได้มีส่วนในการทำงานพีอาร์เผยแพร่การจัดทำแสตมป์ iStamp รวมถึงบัตรภาพในหลวงรัชกาลที่ 9 ให้ประชาชนได้รับรู้ เพราะเราเชื่อว่าคนไทยทุกคนรักพระองค์ท่าน ดังนั้นตอนนี้หากหน่วยงานไหนทำของที่ระลึกเกี่ยวกับพระองค์ท่านออกมาประชาชนต้องรีบจับจองแน่นอน ซึ่งตัวเราเองได้เห็นของจริงก่อนอยู่แล้วก็จะได้สัมผัสถึงความสวยงาม ความทรงคุณค่าจริงๆนะ อยากให้ทุกคนได้เก็บไว้เป็นที่ระลึก ส่วนเราก็จะเขียนบอกถึงความงดงามและคุณค่าของแสตมป์ หรือบัตรภาพที่เกี่ยวกับพระองค์ท่านอย่างเต็มที่

เราชอบการทำงานพีอาร์แบบไหน ? : โดยส่วนตัวยังไม่เคยได้ทำงานพีอาร์ที่เป็นคอร์ปอเรทแต่คิดว่า ชอบงานพีอาร์เอเจนซี่มากกว่าเพราะงานที่ได้คอนซัลท์ ได้เจอลูกค้าที่หลากหลายรูปแบบ หลากหลายสาขา ทั้งภาคอุตสาหกรรม โลจิสติกส์ การศึกษา เป็นต้น ซึ่งลูกค้าแต่ละเจ้าก็จะมี ดีมานด์แตกต่างกัน ทำให้เราต้องใช้ทักษะและประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้จากลูกค้าเจ้าหนึ่งนำมาปรับใช้กับอีกลูกค้าอีกเจ้าหนึ่ง เช่น การนำเสนองาน การเจรจาต่อรอง ตลอดจนการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า

JCPR ให้บริการมายาวนานและครอบคลุมทุกหน่วยงาน วางบทบาทหรือวางกลยุทธ์การทำงานอย่างไร ที่ทำให้ลูกค้ายังใช้บริการของเราอยู่จนถึงปัจจุบัน ? : การทำงานของ JCPR จะปลูกฝังให้คิดเสมอว่า ลูกค้าคือเพื่อนของเรา ซึ่งในที่นี้หมายความว่า การที่เราจะเป็นที่ปรึกษาที่ดีได้ เราต้องสร้างความน่าเชื่อถือ ห้ลูกค้าของเราไว้วางใจที่จะให้เราเป็นที่ปรึกษาของเขาได้อย่างรอบด้าน โดยเราจะเริ่มจากการนำเสนอแผนงานประชาสัมพันธ์ที่คิดว่าจะเกิดประโยชน์สูงสุดกับองค์กร และดำเนินการอย่างเต็มความสามารถ นอกจากเรื่องงานเราก็สามารถให้คำปรึกษาลูกค้าเรื่องอื่นได้เหมือนกันนะ เพราะส่วนใหญ่เราจะเจอแต่คนประสานงานฝ่ายองค์กรที่เป็นผู้หญิง ทั้งวัยยังใกล้ๆ กัน นอกเวลางานเราก็จะเมาท์กันได้ เช่น การเลือกลิปสติก เครื่องสำอาง แหล่งช้อปปิง ร้านอาหารร้านไหนอร่อยเราแชร์กันได้ ช่วงนี้อ้วนไปแล้วนะก็แอบๆ กระซิบกัน เหมือนเพื่อนกันเลย

คิดว่าทำไมเราถึงร่วมงานกับหน่วยงานใหญ่ๆ ทั้ง ภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ สถาบันการศึกษา อย่างต่อเนื่อง ? : เป็นเพราะเราเริ่มรู้ใจ ได้รับความไว้ใจ เชื่อมั่น ในการทำงานกับหน่วยงานรัฐ เรารู้วัฒนธรรมองค์ หรือรู้ ขั้นตอนการทำงานต่างๆ ที่มีความคล้ายคลึงกัน และด้วยจากผลงานที่ผ่านๆ เป็นตัววัดด้วยว่าในครั้งต่อๆ ไปเราก็ยังได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าเจ้าเดิมโดยที่ไม่ต้องมีการปรับตัวกันมากนัก พูดง่ายๆ คือ เหมือนรู้ใจกันแล้ว

เรามีบริการที่ครบวงจรทั้ง การประชาสัมพันธ์ การตลาด หรือ CSR วิธีการจัดสรรบุคลากรในองค์กรให้เหมาะสมงานเป็นอย่างไร : JCPR แบ่งสัดส่วน ความรับผิดชอบการทำงานที่ชัดเจน เป็นฝ่าย เช่น Media Relations, Public Relations, Digital Content ซึ่งแต่ละฝ่ายก็รับผิดชอบงานของตัวเองให้ออกมาดีที่สุด แต่ว่าในการทำงานนั้นแน่นอนว่าทุกฝ่ายต้องเอื้ออำนวยกันในด้านข้อมูลเพื่อการทำงานต่อไป เรียกว่าแบ่งงาน แบ่งความรับผิดชอบกันชัดเจน แต่เราก็ยังคงต้องประสาน คอยช่วยเหลือกันเพื่อให้งานประสบความสำเร็จ เพราะจริงๆ แล้วเราก็คือทีมเดียวกันอยู่ดี (ฟังแล้วรู้สึกดี)

ส่วนใหญ่จะเป็นพีอาร์เชิงบวก ที่ผ่านมาเคยเกิดกรณีพีอาร์เชิงลบบ้างหรือไม่ ? : ถ้าหมายถึงว่าการพีอาร์เพื่อแก้ปัญหา Crisis ต้องบอกเลยว่าเจอบ่อยมาก แทบจะทุกอาทิตย์ เรียกได้ว่า ทีมงานต้องตื่นตัวกันตลอดเวลาเลยทีเดียว

การทำพีอาร์ต้องอาศัยประสบการณ์และความน่าเชื่อถือ เราสร้างภาพลักษณ์ตรงนี้อย่างไร ? : ในส่วนตัวเราจะพยายามให้ลูกค้ามองเราว่าเราเป็นเพื่อน เป็นพี่เป็นน้อง มีอะไรไว้ใจเรานะ เราพร้อมให้คำปรึกษาเสมอ

ความท้าทายในการรับมือลูกค้า ? : ลูกค้าที่เราเจอที่ผ่านมานี่ร้อยแปดพันเก้ามาก ทั้งลูกค้าที่ไม่เคยใช้งานเอเจนซี่ เราเองก็ต้องปรับตัว ปรับทัศนคติการทำงานกันใหม่ ต้องทำให้ลูกค้าเข้าใจกระบวนการทำงานของเรา รวมทั้งเราก็ต้องเข้าใจลูกค้าด้วย หรือแม้แต่ลูกค้าที่ขอข้อมูลยากมากก็ต้องใช้กลยุทธ์หว่านล้อมให้ได้ (หัวเราะ)

มองรูปแบบการทำพีอาร์ในอดีตกับปัจจุบัน เหมือนหรือต่างกันอย่างไร ? : ตั้งแต่เราเข้ามาทำงานในวงการพีอาร์ก็ได้รับรู้ถึงความเคลื่อนไหวของงานนี้พอสมควร แรกเริ่มเลย เราเพียงแต่เน้นการเชิญสื่อร่วมงานที่เป็นสื่อ Mass เช่น ทีวี หนังสือพิมพ์ วิทยุ แต่ปัจจุบันก่อนส่งหมายเชิญหรือส่งข่าวประชาสัมพันธ์ต้องมานั่งลิสต์กันละว่างานนี้ตรงกับสื่อดิจิทัลอะไรบ้าง ต้องเชิญบล็อกเกอร์คนไหนมาร่วมงานบ้าง หรือจะให้เพจไหนรีวิวโปรดักส์สินค้าให้เราได้บ้าง เรียกได้ว่า สื่อเกิดขึ้นใหม่แทบจะทุกเดือนเลยทีเดียว

เล่าประสบการณ์ประทับใจในการทำพีอาร์ ในวาระสำคัญๆ ? : อันนี้ต้องบอกว่าภูมิใจมากที่ได้มีส่วนในการพีอาร์เผยแพร่การจัดทำแสตมป์ iStamp รวมถึงบัตรภาพในหลวงรัชกาลที่ 9 ให้ประชาชนได้รับรู้ เพราะเราเชื่อว่าคนไทยทุกคนรักพระองค์ท่าน ฉะนั้นตอนนี้หากหน่วยงานไหนทำของที่ระลึกเกี่ยวกับพระองค์ท่านออกมาประชาชนต้องรีบจับจองแน่นอน ซึ่งตัวเราเองได้เห็นของจริงก่อนอยู่แล้วก็จะได้สัมผัสถึงความสวยงาม ความทรงคุณค่าจริงๆ นะ อยากให้ทุกคนได้เก็บไว้เป็นที่ระลึก ส่วนเราก็จะเขียนบอกถึงความงดงามและคุณค่าของแสตมป์ หรือบัตรภาพที่เกี่ยวกับพระองค์ท่านอย่างเต็มที่

การทำประชาสัมพันธ์ ภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ สถาบันการศึกษา มีปัญหาหรืออุปสรรคไหม / เรามีวิธีการรับมือแบบไหน ? : ปัญหาที่พบส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการประสานงานข้อมูล เพราะต้องมีกระบวนการและขั้นตอนมากมายกว่าจะได้ข้อมูลมา อาจจะด้วยปัจจัยทางโครงสร้างของแต่ละองค์กรซึ่งการแก้ปัญหาตรงนี้เราก็ต้องอาศัยคอนเนคชั่นภายในองค์กรนั้นๆ เราต้องพยายามทำความรู้จักให้ทุกฝ่ายทุกสำนัก เพื่อที่เราจะได้ลดขั้นตอนและสามารถได้ข้อมูลมาได้รวดเร็วขึ้น การทำงานก็จะเร็วขึ้น

ในการจัดงานแต่ละครั้งเรามีวิธีคิดคอนเซ็ปต์งาน การประชาสัมพันธ์งานให้น่าสนใจอย่างไร ? : ส่วนใหญ่จะเน้นการชูไฮไลท์ หรือ จุดเด่น หัวใจของงานเป็นหลัก เช่น งานที่เปิดตัวโปรดักส์ เราจะต้อง lead คำ หรือ คอนเซ็ปต์ของโปรดักส์เป็นหลักว่าโปรดักส์ที่จะเปิดตัวนั้นมีจุดเด่นหรือแตกต่างจากโปรดักส์ที่มีอยู่แล้วในท้องตลาดอย่างไร มีผลต่อเศรษฐกิจ หรือประชาชนอย่างไร

สื่อที่ใช้ในการพีอาร์/การกระตุ้นให้คนเข้าร่วมงาน เราให้ความสำคัญกับสื่อไหน ? : ถ้าเป็นการจัดงานที่ต้องการจำนวนคนร่วมงานหรือคนที่มาใช้บริการ เราจะใช้วิธีการรีวิวโดย Influencer ที่มี Follower เยอะๆ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายขึ้น แต่ทั้งนี้สื่อกระแสหลักอย่าง สิ่งพิมพ์ สื่อทีวี ก็ยังคงต้องมีอยู่เพราะถือว่ายังเป็นสื่อที่สำคัญเพราะเป็นช่องทางเข้าถึงประชาชนในวงกว้าง และเข้าถึงคนทุกเพศทุกวัย

มองอนาคตการทำพีอาร์ในแวดวง ภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ จะไปในทิศทางไหน ? : เท่าที่ได้ทำงานกับหน่วยงานภาครัฐ และรัฐวิสาหกิจมา เราคิดว่าตอนนี้หลายๆหน่วยงานที่ไม่เคยมีการใช้พีอาร์เอเจนซี่ เริ่มหันมาใช้บริการพีอาร์เอเจนซี่มากขึ้น อาจจะด้วยเหตุผลที่ต้องการเผยแพร่ผลงาน ภาพลักษณ์ และบทบาทขององค์กรให้สาธารณชนทราบมากขึ้น ซึ่งเชื่อมั่นว่า ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าหน่วยงานภาครัฐจะหันมาใช้บริการพีอาร์เอเจนซี่มากขึ้นกว่านี้แน่นอน

มองสถานการณ์การแข่งขันในวงการพีอาร์ในอนาคตอย่างไร ? : ปัจจุบันสื่อมีมากขึ้น ตัวคนทำงานพีอาร์ก็ต้องรู้เท่าทันสื่อ สื่อยุคใหม่ๆ เช่น สื่อดิจิทัล ต้องการอะไร แมสเสจแบบไหนถึงจะขายได้ ขณะเดียวกันสื่อเก่าหรือสื่อกระแสหลักเราก็ต้อง Keep Contact เพราะบางหน่วยงานยังคงต้องการเผยแพร่ในสื่อกระแสหลักอยู่ ซึ่งตรงนี้เราคิดว่า คนทำงานพีอาร์จะต้องมีความแอคทีฟตัวเองให้มาก ต้องมองอนาคตของสื่อให้ออก เพราะไม่แน่ว่าอีกปี 2-3 ปีข้างหน้าจำนวนสื่อ ประเภทของสื่อ อาจจะมีมากกว่านี้ก็เป็นได้

บอกคีย์ ซัคเซส ของเราในการทำงาน ? : เรามองว่างานพีอาร์เป็นงานที่ต้องอาศัยประสบการณ์และความพร้อมในการทำงานสูง ดังนั้น พีอาร์ต้องมีความรอบรู้ รู้ให้เยอะ รู้ให้มาก ลูกค้าพูดอะไรเราต้องทัน ต้องคอนซัลท์ลูกค้าได้ ถ้าไม่รู้ต้องหาคำตอบเดี๋ยวนั้น ฉะนั้น พีอาร์ จะหยุดเรียนรู้ไม่ได้เลย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ