สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ฝ่ายอัยการสหรัฐ ได้ยกระดับการฟ้องร้องอดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐมินนิแอโพลิส ซึ่งใช้เข่ากดลำคอของนายจอร์จ ฟลอยด์ เป็นฐานฆ่าโดยเจตนาแต่ไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อน (second-degree murder) รวมถึงการฟ้องร้องเจ้าหน้าที่อีก 3 นายที่เกี่ยวข้องและมีส่วนสนับสนุนเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย
คีธ เอลลิสัน อัยการสูงสุดแห่งมินนิแอโพลิส ระบุในการแถลงข่าวว่า เดเรก ชอวิน เจ้าหน้าที่ตำรวจมินนิแอโพลิสที่ถูกไล่ออกและถูกจับกุมโดยสำนักตำรวจรัฐมินนิแอโพลิสขณะนี้ ผู้ซึ่งถูกระบุข้อมูลในเอกสารของศาลว่า ใช้เข่ากดลำคอของฟลอยด์เป็นเวลาเกือบ 9 นาที ได้ถูกเพิ่มข้อหาจากเดิมที่ว่า ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย (third-degree murder) และ ฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนา (manslaughter) กลายเป็น ฐานฆ่าโดยเจตนาแต่ไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อน (second-degree murder)
อัยการสูงสุดแห่งมินนิแอโพลิส กล่าวว่า "ตอนนี้ผมเชื่อว่า เรามีหลักฐานที่สนับสนุนการฟ้องร้องฐานฆ่าโดยเจตนาแต่ไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อนอย่างหนักแน่น"
นอกจากนี้ อัยการสูงสุดแห่งรัฐยังประกาศว่ามีการออกหมายจับเจ้าหน้าที่อีก 3 นายที่ถูกไล่ออกจากสำนักตำรวจ เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องในการสังหารชายผิวสีวัย 46 ปีอย่างทารุณเมื่อวันที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมา
โธมัส เลน และเจ อเล็กซานเดอร์ คูเอง ผู้ช่วยชอวินจับตัวฟลอยด์ และทู เธา ผู้ยืนดูอยู่ข้างๆ โดยไม่ห้ามเพื่อนร่วมงาน ถูกตั้งข้อหาช่วยเหลือและสนับสนุนการฆาตกรรมครั้งนี้ โดยนายเอลลิสันกล่าวว่า "ผมเชื่ออย่างยิ่งว่าการกระทำเหล่านี้เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของความยุติธรรมที่จอร์จ ฟลอยด์ ครอบครัวของเขา ชุมชนของเรา และรัฐของเรา ควรได้รับ"
นายเอลลิสันให้สัมภาษณ์แก่ผู้สื่อข่าวว่า เขาเป็นอัยการผู้นำของคดีนี้ และยอมรับว่าแม้ทีมอัยการจะเชื่อว่าการฟ้องร้องดังกล่าวเหมาะสมแล้วแต่ "สิ่งหนึ่งที่ผมไม่เชื่อก็คือความสำเร็จของการดำเนินคดีนี้จะสามารถแก้ไขความเจ็บปวดและความสูญเสียที่ผู้คนได้รับ"
เขาเสริมว่า "การสร้างความยุติธรรมและความเป็นธรรมในสังคมของเรา" ยังเป็น "งานที่ช้าและยากยิ่ง" พร้อมกระตุ้นให้ผู้นำในรัฐบาลและประชาชนทุกคน "เริ่มต้นเขียนกฎเกณฑ์เพื่อสร้างสังคมอันเป็นธรรมในตอนนี้"