ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (CDC) เปิดเผยว่า จากการทดสอบในหมู่ผู้มีประวัติติดต่อกับผู้ป่วยโควิด-19 ที่อยู่ในเรือนจำและสถานกักกัน พบว่า มีผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการและผู้ป่วยที่อยู่ในระยะก่อนแสดงอาการเป็นจำนวนมาก
CDC ระบุว่า ผู้ป่วยสองกลุ่มนี้ผ่านขั้นตอนคัดกรองอาการโดยไม่ถูกตรวจพบว่ามีความผิดปกติ โดยราว 1 ใน 4 ของผู้ป่วยกลุ่มนี้ถูกตรวจเจอหลังผ่านการทดสอบซ้ำเป็นระยะในระหว่างการกักตัว
CDC กล่าวว่า ถือเป็นความท้าทายสำคัญที่เรือนจำและสถานกักกันกำลังเผชิญในการตรวจสอบและการบรรเทาการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคและสำนักสาธารณสุขรัฐลุยเซียนาได้ดำเนินการสอบสวนเพื่อประเมินอัตราการแพร่ระบาดของการติดโรคโควิด-19 ในกลุ่มผู้ถูกจองจำและถูกกักตัวอยู่ในแหล่งกักกันต่างๆ ในระหว่างวันที่ 7-21 พ.ค. ซึ่งพบว่ามีผู้ได้รับผลยืนยันว่าติดโรคโควิด-19 จากการทดสอบซ้ำเป็นระยะของห้องปฏิบัติการจำนวน 71 ราย โดยผู้ติดเชื้อเหล่านี้มาจากผู้ถูกจองจำและถูกกักตัวเนื่องจากมีประวัติสัมผัสกับไวรัสก่อนหน้านี้ 98 ราย
ผลการทดสอบพบว่า ประมาณ 1 ใน 4 ของผู้มีผลการทดสอบเป็นบวก เคยมีประวัติการทดสอบเป็นลบมาก่อน 1-2 ครั้งระหว่างอยู่ในสถานกักกัน โดยผู้ที่มีผลเป็นบวกถึงร้อยละ 45 ไม่มีการแสดงอาการใดๆ ในช่วงเวลาที่ทำการทดสอบ
CDC เสริมว่า การค้นพบเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า การแพร่เชื้อที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในหมู่ผู้ที่อยู่ระหว่างการกักกันตามสถานที่ต่างๆ ดังนั้นการทดสอบซ้ำเป็นระยะจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งโดยเฉพาะในหมู่ผู้มีประวัติติดต่อใกล้ชิดกับผู้ป่วย เพื่อให้สามารถระบุตัวผู้ป่วยได้อย่างแน่ชัดและสามารถแก้ไขปัญหาด้านสาธารณสุขอย่างรวดเร็วในสถานที่ที่มีผู้คนพักอยู่ร่วมกันเช่นนี้