สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า คิวบาเป็นตัวแทนในนามของ 52 ประเทศ ร่วมแสดงความยินดีต่อการลงมติอนุมัติใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติในฮ่องกง เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา
แถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้นในการประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNHRC) ครั้งที่ 44 เมื่อวานนี้ โดยคิวบาเปิดเผยว่า คาดว่าจะมีอีกหลายประเทศที่จะร่วมลงนามในแถลงการณ์
แถลงการณ์มีใจความว่า "การไม่แทรกแซงกิจการภายในของรัฐเอกราชเป็นหลักการสำคัญที่ดำรงอยู่ในกฎบัตรสหประชาชาติ และเป็นกฎเกณฑ์พื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ"
"ในประเทศใดประเทศหนึ่ง อำนาจนิติบัญญัติในประเด็นความมั่นคงของชาติเป็นความรับผิดชอบของรัฐ ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วไม่ใช่ประเด็นด้านสิทธิมนุษยชน ดังนั้นจึงไม่ต้องมีการหารือที่คณะมนตรีสิทธิมนุษยชน"
"เราเชื่อว่าทุกประเทศมีสิทธิ์ที่จะปกป้องความมั่นคงของชาติผ่านทางกฎหมาย และเราเห็นชอบกับขั้นตอนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องซึ่งนำมาใช้เพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าว"
"ในบริบทข้างต้น เราขอยินดีต่อการอนุมัติข้อตัดสินใจของฝ่ายนิติบัญญัติของจีนในการจัดตั้งและปรับปรุงกรอบกฎหมาย และกลไกการบังคับใช้สำหรับเขตบริหารพิเศษฮ่องกง เพื่อจุดประสงค์ในการปกป้องความมั่นคงแห่งชาติ รวมถึงการยึดมั่นในแนวทาง ‘หนึ่งประเทศ สองระบบ’ ของจีน" แถลงการณ์ระบุ
"เราเชื่อมั่นว่าการดำเนินการครั้งนี้จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าแนวทาง ‘หนึ่งประเทศ สองระบบ’ มั่นคงและยั่งยืน อีกทั้งฮ่องกงจะมีความรุ่งเรืองและความมั่นคงในระยะยาว นอกจากนี้ ชาวฮ่องกงก็สามารถใช้สิทธิและเสรีภาพตามกฎหมายของตนได้ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย"
"เราขอย้ำว่าฮ่องกงเป็นส่วนหนึ่งของจีนที่แยกออกไม่ได้ กิจการฮ่องกงเป็นกิจการภายในของจีนที่ไม่ยอมรับการแทรกแซงจากกองกำลังต่างชาติ เราขอเรียกร้องให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องหยุดยั้งการแทรกแซงกิจการภายในของจีนโดยใช้ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับฮ่องกง"
ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการประจำสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) ซึ่งเป็นสภานิติบัญญัติของจีน ได้ลงมติเป็นเอกฉันท์ให้บังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ในฮ่องกงแล้วในวันนี้ หลังจากคณะกรรมาธิการได้เสร็จสิ้นการประชุมเป็นเวลา 3 วัน
หลังจากนั้น นางแคร์รี ลัม ผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกงได้ลงนามการประกาศใช้และตีพิมพ์ในรัฐกิจจานุเบกษา โดยกฎหมายดังกล่าว มีผลบังคับใช้เมื่อเวลา 23.00 น. ของวันที่ 30 มิ.ย. ตามเวลาฮ่องกง