ดร. ไรอัน กล่าวว่า "ผมคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องทำให้ประชาชนมั่นใจว่านี่ไม่ใช่ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ แต่เป็นไวรัสที่อยู่ภายใต้การเฝ้าระวังมาโดยตลอด โดยไวรัสสายพันธุ์นี้ถูกค้นพบจากการเฝ้าระวังโรคตลอดหลายปีที่ผ่านมา" พร้อมเสริมว่าไวรัสไข้หวัดหมูเอชวันเอ็นวัน (H1N1) สายพันธุ์อีเอ (Eurasian avian-like – EA) นั้นอยู่ภายใต้การเฝ้าระวังโรคของทางการจีน และเครือข่ายเฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่ทั่วโลก รวมถึงศูนย์ประสานงานของ WHO
ดร. ไรอัน อธิบายว่า "ไวรัสสายพันธุ์นี้อยู่ภายใต้การเฝ้าระวังโรคมาตั้งแต่ปี 2554 โดยรายงานที่เผยแพร่ล่าสุดเป็นข้อมูลการเฝ้าระวังโรคในช่วงเวลานั้น และชี้ให้เห็นวิวัฒนาการของไวรัสสายพันธุ์นี้ในประชากรสุกร ตลอดจนการสัมผัสเชื้อไวรัสระหว่างการทำงานของคนงานในช่วงเวลานั้นอย่างชัดเจน"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า งานวิจัยที่เผยแพร่ผ่านวารสารของสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติสหรัฐ (PNAS) ระบุว่า ทีมนักวิจัยของจีนได้ตรวจสอบไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่พบในสุกรตั้งแต่ปี 2554-2561 และค้นพบไวรัสเอชวันเอ็นวัน สายพันธุ์ G4 EA ซึ่งเป็นสายพันธุ์ลูกผสมระหว่างไข้หวัดใหญ่ในสุกร นก และมนุษย์
ดร. ไรอัน เน้นว่า "เราจำเป็นต้องเฝ้าระวังและตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ทั้งยังต้องดำเนินการเฝ้าระวังไวรัสสายพันธุ์ G4 อย่างสุดความสามารถ โดยเราคาดว่าจะต้องดำเนินการเฝ้าระวังต่อไปในอีกหลายเดือนและหลายปีข้างหน้า"
ดร. ไรอัน กล่าวปิดท้ายว่า "การเฝ้าระวังโรคเป็นงานสำคัญมาก ซึ่งเกิดขึ้นภายใต้การทำงานร่วมกับศูนย์ประสานงานองค์การฯ ในสังกัดศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติจีน (CCDC) และศูนย์ประสานงานอื่นๆ ทั่วโลก รวมถึงศูนย์ประสานงานองค์การฯ ด้านไข้หวัดใหญ่ในสังกัดศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ (CDC) ในเมืองแอตแลนตา ทั้งยังแสดงให้เห็นความสำคัญของระบบรับมือและเฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่ทั่วโลก"