อิหร่านแจงเหตุยิงเครื่องบินโดยสารยูเครนตกเมื่อเดือนม.ค. ส่วนหนึ่งเพราะความผิดพลาดของระบบ

ข่าวต่างประเทศ Tuesday July 14, 2020 14:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

องค์การการบินพลเรือนของอิหร่านเปิดเผยว่า เหตุการณ์เครื่องบินโดยสารยูเครนถูกยิงตกเมื่อเดือนม.ค. ที่ผ่านมานั้น เป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากความผิดพลาดในการกำหนดตำแหน่งของระบบนำวิถีขีปนาวุธ และการตัดสินใจยิงโดยไม่ได้รับอนุญาต

การบินพลเรือนระบุในรายงานที่เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าวซึ่งเผยแพร่ออกมาเมื่อวันเสาร์ว่า "การเปลี่ยนพิกัดไปยังหน่วยงานป้องกันทางอากาศแห่งหนึ่งในกรุงเตหะราน ทำให้ส่วนหัวของขีปนาวุธเกิดการเปลี่ยนแปลง จนนำไปสู่ความล้มเหลวเนื่องด้วยความผิดพลาดของมนุษย์ในการปฏิบัติตามขั้นตอนการกำหนดตำแหน่งของระบบ อย่างไรก็ตาม ความล้มเหลวในการทำงานดังกล่าวซึ่งก่อให้เกิดอันตรายเป็นอย่างมากนี้สามารถควบคุมได้ หากมีการดำเนินการตามแผนอื่นๆ"

ข้อผิดพลาดที่สำคัญอีกประการหนึ่ง คือหลังจากระบบตรวจจับหน่วยดังกล่าวและแจ้งข้อมูลไปยังหน่วยบังคับบัญชาแล้ว ผู้สั่งการได้ทำการยิงขีปนาวุธไปยังเป้าหมายทันที "โดยไม่ได้รับคำตอบใดๆ จากศูนย์ประสานงาน" รายงานระบุ

เนื้อหาในรายงานระบุต่อไปว่า "ตามขั้นตอนการทำงานที่ระบุไว้ หากผู้สั่งการระบบไม่สามารถติดต่อกับศูนย์ประสานงานและไม่ได้รับคำสั่งให้ยิง ก็เท่ากับพวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ยิงขีปนาวุธนั้น" พร้อมเสริมว่า "ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นอย่างชัดแจ้งว่า เหตุการณ์เหล่านี้มีสาเหตุมาจากความผิดพลาดของมนุษย์"

รายงานของหน่วยงานการบินพลเรือน ยังชี้ให้เห็นอีกว่า "ไม่ได้ข้อสรุปขั้นสุดท้ายสำหรับการสืบสวนอุบัติเหตุครั้งนี้" และการสืบสวนยังต้องมีการดำเนินการต่อไป

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เหตุการณ์สายการบินยูเครนแอร์ไลน์เที่ยวบิน 752 ถูกขีปนาวุธโจมตีเพียงไม่กี่นาทีหลังออกจากสนามบินนานาชาติอิหม่าม โคไมนี ของกรุงเตหะรานซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ม.ค. ส่งผลให้ผู้โดยสารและลูกเรือทั้ง 176 คนบนเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 เสียชีวิตทั้งหมด

หลังเกิดเหตุ กองทัพอิหร่านได้ออกมายอมรับว่าพวกเขาเข้าใจผิดว่าเครื่องบินดังกล่าวเป็นเครื่องบินรบของยูเครนที่เป็นศัตรูและยิงเครื่องบินดังกล่าว "โดยไม่เจตนา"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ