สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐผ่านร่างกฎหมายนโยบายการป้องกันประเทศประจำปี อย่างไรก็ด เนื้อหาส่วนที่เป็นประเด็นโต้เถียงที่อาจโดนวีโต้จากทำเนียบขาวได้
กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ (National Defense Authorization Act หรือ NDAA) จะอนุญาตให้สหรัฐใช้เงินกว่า 7.4 แสนล้านดอลลาร์ ในปีงบประมาณหน้า โดยสภาผู้แทนราษฎรผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้ด้วยคะแนนเสียง 295 ต่อ 125
ร่างกฎหมายฉบับนี้ประกอบด้วยการเพิ่มเงินค่าแรงให้ทหารสหรัฐ ให้เงินสนับสนุนกองทัพเพื่อเตรียมพร้อมรับมือการระบาดครั้งใหญ่ และมีส่วนหนึ่งที่กำหนดให้เปลี่ยนชื่อสถานที่ทางการทหารบางแห่งที่ตั้งชื่อตามบุคคลที่อยู่ฝ่ายสมาพันธรัฐที่สนับสนุนระบบทาสสมัยสงครามกลางเมือง
ส่วนหนึ่งของร่างกฎหมายเสนอให้รัฐและเมืองในสหรัฐ ถอดรูปปั้นของบุคคลสำคัญของฝ่ายสมาพันธรัฐออก หลังในสหรัฐมีการตื่นตัวเรื่องพฤติกรรมอันโหดร้ายของตำรวจ การเหยียดเชื้อชาติ และระบบทาส ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากจอร์จ ฟลอยด์ ชายชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันวัย 46 ปี เสียชีวิตขณะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เข่ากดลำคอลงกับพื้นนานเกือบ 9 นาที
อย่างไรก็ตาม ทำเนียบขาวยืนกรานคัดค้านการเปลี่ยนชื่อฐานที่มั่นของสหรัฐ โดยสำนักงานบริหารจัดการและงบประมาณของทำเนียบขาวระบุในแถลงการณ์ว่า การเปลี่ยนชื่อสถานที่ เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการลบบุคคลผู้ไม่สอดคล้องกับมาตรฐานการปฏิบัติออกไปจากประวัติศาสตร์ชาติ ซึ่งมาตรฐานนี้เป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
แถลงการณ์ระบุว่า หากร่างกฎหมายฉบับนี้ถูกยื่นต่อปธน.โดยไม่มีการแก้ไข ที่ปรึกษาอาวุโสของปธน.จะแนะนำให้ปธน.ใช้สิทธิ์วีโต้
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า วุฒิสภาสหรัฐยังไม่ผ่านร่างกฎหมายดังกล่าว โดยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องปรับแก้กฎหมายร่วมกันให้เป็นฉบับเดียวก่อนส่งให้ทำเนียบขาวพิจารณา