สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของสำนักข่าวเบอร์นามาว่า นายนาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้รับคำสั่งจากการพิพากษาชี้ขาดคดีให้จ่ายภาษีย้อนหลังเป็นมูลค่า 1.69 พันล้านริงกิต (ราว 1.25 หมื่นล้านบาท)
เบอร์นามาซึ่งเป็นสำนักข่าวของทางการมาเลเซียรายงานคำกล่าวของผู้พิพากษาศาลสูงแห่งกรุงกัวลาลัมเปอร์ที่ว่า คณะกรรมการสรรพากรในประเทศ (IRB) ซึ่งเป็นหน่วยงานจัดเก็บภาษีของมาเลเซีย มีสิทธิ์เก็บภาษีที่ค้างชำระช่วงปี 2554-2560
การพิพากษาชี้ขาดคดี คือการที่ศาลพิจารณคดีผ่านข้อโต้แย้ง โดยปราศจากการไต่สวนพยานหลักฐาน
ผู้พิพากษากล่าวว่า ศาลได้รับประกาศจากคณะกรรมการ IRB ซึ่งระบุให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีทุกคนจ่ายภาษีแก่คณะกรรมการ รวมถึงนายนาจิบด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม นายนาจิบจะได้รับอนุญาตให้อุทธรณ์เงินจำนวนนี้ต่อคณะกรรมาธิการพิเศษภาษีเงินได้ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ไต่สวนและตัดสินอุทธรณ์จากผู้ชำระภาษี ตามกฎหมายภาษีของประเทศ
ทั้งนี้ รัฐบาลได้ยื่นฟ้องนายนาจิบผ่านคณะกรรมการ IRB เมื่อปีที่แล้ว โดยขอให้เขาจ่ายภาษีที่ค้างชำระพร้อมดอกเบี้ย 5% ต่อปี นับจากวันตัดสิน รวมถึงค่าใช้จ่ายและค่าเยียวยาอื่น ๆ ตามที่ศาลเห็นสมควร
นายนาจิบถูกฟ้องร้องด้วยข้อกล่าวหาอีกหลายสิบข้อ รวมถึงการทุจริต การฟอกเงิน การใช้อำนาจในทางที่ผิด และการละเมิดต่อหน้าที่ ซึ่งเกี่ยวข้องกับเงินหลายล้านริงกิต นับตั้งแต่พรรคของเขาสูญเสียอำนาจในการเลือกตั้งปี 2561 โดยเขาได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด
อนึ่ง คำตัดสินของการพิจารณาคดีหนึ่งโดยบริษัท เอสอาร์ซี อินเตอร์เนชั่นแนล อดีตหน่วยงานของกองทุนเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติมาเลเซีย (1MDB)จะประกาศในวันที่ 28 ก.ค.นี้