สำนักข่าวซินหัวรายงานการเปิดเผยของเหรา อี้ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยาระดับโมเลกุลชาวจีนซึ่งแสดงทัศนะว่า สหรัฐควรดำเนินการรับมือกับโรค โควิด-19 ให้มากกว่านี้ เพื่อลดจำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิต หลังจากสหรัฐมีเวลานานถึงสองเดือนในการเรียนรู้ประสบการณ์การรับมือกับโรคระบาดจากจีน
"สหรัฐและจีนยังคงไม่ร่วมมือกัน แม้การระบาดใหญ่กำลังลุกลามในสหรัฐ และทั่วโลก ขณะที่จีนเผชิญกับการแพร่ระบาดน้อยกว่า แต่ทั้งสองประเทศกลับแข่งขันกันเพื่อค้นหาวัคซีนและวิธีรักษาโรคโควิด-19 ให้สำเร็จ" นายแพทย์เหรา อี้ อธิการบดีมหาวิทยาลัยการแพทย์นครหลวง (Capital Medical University) ในกรุงปักกิ่งได้เขียนบทความแสดงความคิดเห็นลงในหนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทม์สที่ตีพิมพ์เมื่อวันพุธ (22 ก.ค.) ที่ผ่านมา
นายแพทย์เหรา ซึ่งสละสัญชาติอเมริกันเมื่อ 2-3 ปีก่อน เปิดเผยว่า อาของเขาที่อาศัยอยู่ในนิวยอร์กเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ด้วยวัย 74 ปี ขณะที่ญาติพี่น้องคนอื่นๆ ที่อาศัยอยู่ในนครอู่ฮั่นทางตอนกลางของจีนกลับปลอดภัยทุกคน
"อาเอริคเสียชีวิตในนิวยอร์กหลังโรคโควิด-19 เริ่มระบาดไปยังสหรัฐ ซึ่งเป็นประเทศที่มีการทหารแข็งแกร่งที่สุด เศรษฐกิจรุ่งเรืองที่สุด และการแพทย์ทันสมัยที่สุดในโลก" นายแพทย์เหรากล่าว พร้อมเล่าว่า พ่อของเขา วัย 90 ปี ซึ่งเป็นแพทย์เฉพาะทางด้านปอด เสียใจหนักจนมิอาจยอมรับการเสียชีวิตของน้องชายได้ โดยให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า เอริคจะรอดชีวิตหากอยู่ที่จีน
ทั้งนี้ สหรัฐรายงานการตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 มากกว่า 4.1 ล้านราย และมีผู้ป่วยเสียชีวิตแล้วกว่า 1.45 แสนราย ซึ่งสูงกว่าทุกประเทศหรือภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลกอย่างมาก
"ช่วงเวลาที่ผ่านมา สหรัฐฯ ดูเหมือนจะเป็นประเทศที่ดีต่อการใช้ชีวิตสำหรับผู้ที่พอจะมีทางเลือก แต่สถานการณ์โรคระบาดในเวลานี้ทำให้ภาพลักษณ์ของอเมริกาแย่ลง" นายแพทย์เหรากล่าว
"อเมริกาอาจจะไม่ใช่ประเทศประชาธิปไตยอย่างที่พวกเราหลายคนคิด" เขากล่าวปิดท้าย