สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า บริษัทมูจิ ผู้ค้าปลีกสัญชาติญี่ปุ่นในสหรัฐ ซึ่งได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ตัดสินใจปิดร้านสาขาทั้ง 7 แห่งในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐตามมาตรา 11 ของกฎหมายล้มละลาย
วูแมน แวร์ เดลี วารสารด้านอุตสาหกรรมการค้าและแฟชั่นชั้นนำระดับโลก รายงานเมื่อวันศุกร์ (31 ก.ค.) ว่า การปิดกิจการดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของมูจิในแคนาดา ญี่ปุ่น และที่อื่นๆ ทั่วโลก รวมถึงธุรกิจอีคอมเมิร์ซของแบรนด์ในสหรัฐด้วย
มูจิระบุในเอกสารที่ยื่นขอล้มละลายว่า บริษัทเป็นเหยื่อรายหนึ่งของโรคโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจร้านค้าแบบดั้งเดิมอย่างรุนแรง และ "จะต้องจัดวางตำแหน่งธุรกิจอีคอมเมิร์ซของแบรนด์ใหม่ เนื่องจากพฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนไปซื้อสินค้าทางออนไลน์มากขึ้น อันเป็นผลมาจากการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19"
แม้ว่าจะปิดกิจการในแคลิฟอร์เนีย แต่ก็ยังคงมีร้านมูจิอีก 12 สาขาเปิดให้บริการในสหรัฐต่อไป
ซาโตชิ โอคาซากิ ประธานกรรมการบริหารของมูจิ ยูเอสเอ กล่าวว่า บริษัทยังหวังที่จะกลับมาเปิดร้านมูจิแบบดั้งเดิมในแคลิฟอร์เนียอีกในอนาคต และระหว่างนี้ ก็เฝ้ารอที่จะให้บริการลูกค้าของเราทางออนไลน์ในรัฐแคลิฟอร์เนีย
ทั้งนี้ ก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้น มูจิมีแผนขยายธุรกิจครั้งใหญ่ในสหรัฐ โดยพิจารณาที่จะเปิดร้านสาขา 100 แห่งให้ได้ภายในระยะเวลา 5 ปี และจะเปิดกิจการโรงแรมที่ชายฝั่งตะวันตกด้วย
อนึ่ง มูจิเป็นบริษัทค้าปลีกของญี่ปุ่นที่ขายสินค้าในครัวเรือนและสินค้าอุปโภคบริโภคที่หลากหลาย แบรนด์ดังกล่าวเป็นที่รู้จักในเรื่องสุนทรียะที่เรียบง่ายแบบเอเชีย การจำหน่ายสินค้าที่หลากหลาย และราคาย่อมเยา นอกจากนี้ ยังมีบริการโรงแรมในประเทศจีนและญี่ปุ่นด้วย