สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (CDC) ได้เผยแพร่รายงานคาดการณ์จำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ฉบับใหม่ ซึ่งระบุว่าจำนวนผู้ป่วยเสียชีวิตในสหรัฐ อาจเพิ่มเป็น 200,000 ราย ภายในวันที่ 5 ก.ย.นี้
รายงานที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี (13 ส.ค.) คาดการณ์ว่า สหรัฐจะมีผู้ป่วยเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เพิ่ม 4,200-10,600 รายในช่วงสัปดาห์ที่สิ้นสุดในวันที่ 5 ก.ย. ส่งผลให้สหรัฐมีผู้ป่วยเสียชีวิตสะสม 180,000-200,000 รายเมื่อนับถึงวันดังกล่าว
"รายงานคาดการณ์ในระดับรัฐและระดับดินแดนมองว่าจำนวนผู้ป่วยเสียชีวิตใหม่รายสัปดาห์ในอีก 4 สัปดาห์ข้างหน้า อาจเพิ่มสูงขึ้นในรัฐโคโลราโด และอาจลดลงในรัฐแอริโซนา หมู่เกาะนอร์ธเทิร์นมาเรียนา รัฐเวอร์มอนต์ และรัฐไวโอมิง"
เมื่อวันพฤหัสบดี (13 ส.ค.) นายแอนโธนี ฟอซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติ (NIAID) เตือนว่า "จำนวนผู้เสียชีวิตจะมหาศาล" หากสหรัฐ ปล่อยให้โรคโควิด-19 แพร่ระบาดโดยไม่ตรวจสอบเพื่อพยายามสร้างสิ่งที่เรียกว่าภูมิคุ้มกันหมู่ (herd immunity)
"หากทุกคนติดโรคโควิด-19 แม้สัดส่วนผู้ป่วยไม่แสดงอาการจะอยู่ในระดับสูง ผู้คนจำนวนมากก็จะเสียชีวิต" นายฟอซีกล่าว
ส่วนรายงานฉบับใหม่จากโครงการเฝ้าติดตามโรคโควิด (COVID Tracking Project) เปิดเผยว่า "การตรวจโรคยังคงลดน้อยลง โดยเฉพาะพื้นที่ทางใต้ ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ประเทศต้องการให้ตรวจโรคมากที่สุด ส่วนผู้ป่วยมีจำนวนลดลง แต่ยังคงตีความได้ยาก เนื่องจากการตรวจโรคน้อยลงเช่นกัน อย่างไรก็ดี ขณะนี้มีผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจากโรคโควิด-19 น้อยลง เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน"
รายงานระบุว่าจำนวนผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลของสหรัฐ ลดลงสองสัปดาห์ติดต่อกัน ซึ่งบ่งชี้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้ออาจน้อยลง แต่ยังไม่นับรวมการตรวจโรคที่ลดลงเช่นกัน
ทั้งนี้ สถิติจากศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงระบบ (CSSE) แห่งมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินส์ ระบุว่าสหรัฐตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เกิน 5.29 ล้านราย และผู้ป่วยเสียชีวิตมากกว่า 168,100 ราย เมื่อนับถึงช่วงบ่ายวันศุกร์ (14 ส.ค.)