ช่วงวันหยุดยาวเนื่องในวันชาติจีนปี 2563 เริ่มต้นวันที่ 1 ต.ค. ซึ่งปีนี้ตรงกับเทศกาลวันไหว้พระจันทร์ ทำให้มีการขยายช่วงหยุดยาวจากปกติ 7 วันเป็น 8 วัน
ซีเอ็นเอ็น บิสซิเนส ประเมินเศรษฐกิจจีนโดยอ้างอิงข้อมูลจากธนาคารโลก ระบุว่า เศรษฐกิจจีนจะมีส่วนในผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศทั่วโลก หรือจีดีพีโลก เพิ่มขึ้น 1.1% แตะที่ 17.5% ภายในสิ้นปีนี้ พร้อมชี้ว่าธนาคารโลกคาดการณ์ว่าจีดีพีของจีนในปีนี้จะขยายตัว 1.6% ขณะที่เศรษฐกิจโลกโดยรวมจะหดตัว 5.2%
กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของจีนระบุว่า รายได้จากการท่องเที่ยวทั่วจีนในช่วงหยุดยาวที่ผ่านมาอยู่ที่ 4.66 แสนล้านหยวน (ราว 2.16 ล้านล้านบาท) คิดเป็น 69.9% ของรายได้ในช่วงเดียวกันในปี 2562 โดยมีประชาชนเดินทางเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศรวม 637 ล้านครั้ง คิดเป็น 79% ของตัวเลขใจช่วงเดียวกันในปีก่อน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ออกซ์ฟอร์ด อีโคโนมิกส์ (Oxford Economics) หน่วยงานวิจัยและให้คำปรึกษาของสหราชอาณาจักร คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะมีส่วนในจีดีพีโลกเพิ่มขึ้นราว 1% ในปี 2563 พร้อมระบุว่า เศรษฐกิจจีนได้ประโยชน์จากการดำเนินบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทานของโลก
"แม้สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีนจะย่ำแย่ลงมากในช่วงที่ผ่านมา แต่บริษัทข้ามชาติหลายรายของสหรัฐยังคงทำธุรกิจกับจีนอยู่" หลุยส์ คุยจส์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำภูมิภาคเอเชียของออกซ์ฟอร์ด อีโคโนมิกส์ระบุ พร้อมเสริมว่า การที่จีนช่วยอำนวยความสะดวกด้านการลงทุนจากต่างประเทศในภาคการเงินมีส่วนผลักดันให้บริษัทสหรัฐทำธุรกิจด้วย