สำนักข่าวซินหัวรายงานการเผยแพร่บทความของบิสซิเนส อินไซเดอร์ (Business Insider) เว็บไซต์ข่าวสารธุรกิจและการเงินของสหรัฐ ซึ่งระบุว่า ในขณะที่หลักเกณฑ์ส่วนใหญ่บ่งชี้ว่าสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในจีนคลี่คลายลง และวิถีชีวิตของผู้คนส่วนมากหวนคืนสู่ภาวะปกติ แต่สหรัฐและหลายประเทศในยุโรปยังคงดิ้นรนอยู่กับการยับยั้งการระบาดของโรคและการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ
บทความดังกล่าวเผยว่า การฟื้นตัวของจีนเห็นได้อย่างชัดเจนในวันหยุดยาวช่วงโกลเด้นวีคระหว่างวันที่ 1-7 ต.ค. โดยมีประชาชน 637 ล้านคน หรือคิดเป็น 46% ของประชากร 1.4 พันล้านคนของจีน เดินทางทั่วประเทศในสัปดาห์ดังกล่าว และใช้จ่ายเงินทั้งสิ้น 6.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2.15 ล้านล้านบาท)
บทความยังระบุด้วยว่า ความสำเร็จของจีนในการยับยั้งโรคโควิด-19 เป็นผลมาจากหลายปัจจัย อาทิ ศักยภาพการตรวจโรคในปริมาณมากอย่างรวดเร็ว การบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์และการเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างเข้มงวด รวมถึงการที่ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันทั่วไปอย่างเคร่งครัด เช่น สวมหน้ากากอนามัย ขณะที่สหรัฐและหลายประเทศในยุโรปดำเนินตามมาตรการเหล่านี้ได้ไม่ดีนัก
นอกจากนี้ บทความดังกล่าวยังเสริมว่า สหรัฐและหลายประเทศในยุโรปต้องดำเนินการอีกมากมาย เพื่อคลี่คลายการระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศให้อยู่ในระดับเดียวกับจีน พร้อมย้ำเตือนว่าจำนวนผู้ป่วยเสียชีวิตจะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง