คณะกรรมการจัดการและลดความเสี่ยงภัยพิบัติแห่งชาติฟิลิปปินส์ (NDRRMC) รายงานว่ายอดผู้เสียชีวิตจากพายุไต้ฝุ่นโมลาเบ (Molave) ในฟิลิปปินส์พุ่งขึ้นเป็น 16 รายแล้ว
คณะกรรมการระบุว่ายังมีผู้บาดเจ็บ 22 ราย และผู้สูญหายอีก 4 ราย หลังไต้ฝุ่นโมลาเบพัดถล่มฟิลิปปินส์ตั้งแต่วันอาทิตย์ถึงวันอังคาร ซึ่งส่งผลให้ต้องอพยพประชาชนกว่า 242,000 ราย ในหมู่บ้านกว่า 1,000 แห่งบนเกาะลูซอนและพื้นที่ตอนกลางของประเทศ โดยขณะนี้มีผู้อพยพมากกว่า 65,000 ราย กระจายตัวอยู่ในศูนย์อพยพ 916 แห่ง
ขณะเดียวกันกระแสลมแรงและฝนตกหนักจากไต้ฝุ่นโมลาเบยังสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างให้กับพืชผลและโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งยังก่อให้เกิดน้ำท่วม 63 ครั้ง และดินถล่มอีก 22 ครั้ง
คณะกรรมการเผยว่า ไต้ฝุ่นสร้างความเสียหายแก่ถนนอย่างน้อย 105 เส้น และสะพาน 22 แห่ง รวมทั้งมีผู้โดยสารติดค้าง สินค้า เรือ และยานพาหนะอื่นๆ ได้รับความเสียหายในภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายด้านการเกษตรและโครงสร้างพื้นฐานมากกว่า 737 ล้านเปโซ (ราว 475 ล้านบาท)
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ไต้ฝุ่นโมลาเบพัดขึ้นชายฝั่งตะวันออกของฟิลิปปินส์เมื่อคืนวันอาทิตย์ (24 ต.ค.) ก่อให้เกิดฝนตกหนักและลมแรงจนต้นไม้และเสาไฟฟ้าหักโค่น รวมถึงน้ำท่วมใหญ่ในประเทศ
พายุไต้ฝุ่นโมลาเบ ซึ่งเคลื่อนออกจากฟิลิปปินส์ไปแล้วเมื่อเช้าวันอังคาร เป็นพายุหมุนเขตร้อนลูกที่ 17 ที่พัดถล่มประเทศในปีนี้ โดยฟิลิปปินส์ต้องเผชิญกับพายุไต้ฝุ่นและพายุโซนร้อนราว 20 ลูกต่อปี