สำนักข่าวซินหัวรายงานการเปิดเผยของสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) ระบุว่า ในปี 2562 ที่ผ่านมา มีคดีฆาตกรรมจากความเกลียดชังเพิ่มสูงสุดทำสถิติใหม่ในสหรัฐ ขณะที่อาชญากรรมจากความเกลียดชังก็เพิ่มสูงสุดในรอบกว่า 10 ปี โดยส่วนใหญ่เกิดจากอคติด้านเชื้อชาติ ชาติพันธุ์ หรือรกราก
ทั้งนี้ FBI ให้คำนิยาม "อาชญากรรมจากความเกลียดชัง" ว่าเป็น "ความผิดทางอาญาซึ่งมีแรงจูงใจบางส่วนหรือทั้งหมดมาจากอคติของผู้ก่อเหตุด้านเชื้อชาติ ศาสนา ความทุพพลภาพ รสนิยมทางเพศ ชาติพันธุ์ เพศ หรืออัตลักษณ์ทางเพศ"
สมาพันธ์ต่อต้านการดูหมิ่น (ADL) ระบุว่าในปี 2562 มีผู้ตกเป็นเหยื่อในคดีฆาตกรรมหรือคดีฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนา อันมีที่มาจากความเกลียดชัง 51 ราย มากกว่าสถิติเดิมที่ 24 รายในปี 2561
ด้านสื่อท้องถิ่นรายงานว่า ในบรรดาหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย 15,588 แห่งที่ให้ข้อมูลแก่ FBI ในปี 2562 มี 2,172 แห่งที่รายงานพบเหตุอาชญากรรมจากความเกลียดชัง 7,314 ครั้ง เพิ่มขึ้นจากยอดเดิมที่ 7,120 ครั้งในปี 2561
รายงานระบุว่า อาชญากรรมจากความเกลียดชังเคยมีแนวโน้มลดลงหลังแตะระดับสูงสุดในปี 2551 แต่กลับมาเพิ่มขึ้นเกือบทุกปีตั้งแต่ปี 2557
รายงานยังระบุด้วยว่า ประเด็นด้านเชื้อชาติยังคงเป็นอาชญากรรมจากความเกลียดชังที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุดในรอบเกือบ 30 ปีที่ผ่านมา โดย FBI รายงานสถิติปี 2562 ว่า 48.4% ของอาชญากรรมจากประเด็นเชื้อชาตินั้น เกิดจากการต่อต้านคนผิวดำ