สำนักข่าวซินหัวรายงานการเปิดเผยของสำนักข่าวทางการบราซิลระบุว่า หญิงชาวบราซิลรายหนึ่งได้กลายเป็นคนแรกของโลกที่กลับมาติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ E484K ซ้ำอีกครั้ง
คณะนักวิจัยจากสถาบันวิจัยและศึกษา IDOR ในรัฐบาเอียทางตะวันออกเฉียงเหนือของบราซิลได้ตรวจพบหญิงวัย 45 ปี ผู้มีผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นบวกครั้งแรกในเดือนพ.ค. 2563 และต่อมามีผลตรวจโรคเป็นบวกอีกครั้งจากการติดเชื้อไวรัสโควิดชนิดกลายพันธุ์ในเดือนต.ค. 2563
เชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์ E484K ซึ่งมีต้นกำเนิดในแอฟริกาใต้นั้นได้เคยปรากฏอยู่ในบราซิลก่อนหน้านี้แล้ว แต่กรณีนี้นับเป็นผู้ป่วยรายแรกที่กลับมาติดเชื้อซ้ำด้วยเชื้อไวรัสโควิดกลายพันธุ์ โดยผู้ป่วยหญิงรายดังกล่าวไม่ได้มีอาการเจ็บป่วยร้ายแรงในการติดเชื้อทั้งสองครั้ง
อย่างไรก็ดี เพื่อยืนยันกรณีการติดเชื้อซ้ำดังกล่าว จำเป็นต้องมีการวิเคราะห์จีโนมหรือพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโควิดทั้งสองสายพันธุ์ และเปรียบเทียบลำดับอาร์เอ็นเอ (RNA) ซึ่งเป็นโมเลกุล "ไพรม์" (prime) ของดีเอ็นเอ เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงว่า เชื้อไวรัสทั้งสองแตกต่างกัน
คณะนักวิจัยของสถาบัน IDOR แสดงความกังวลเกี่ยวกับการค้นพบครั้งนี้ เนื่องจากการกลายพันธุ์ของไวรัสโควิดอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ขัดขวางการทำงานของแอนติบอดีในการรักษาผู้ป่วย โดยในปัจจุบันบราซิลตรวจพบเชื้อไวรัสโควิดชนิดกลายพันธุ์อย่างน้อย 5 สายพันธุ์แล้ว
"การค้นพบครั้งนี้ถือเป็นสัญญาณเตือน และตอกย้ำความจำเป็นของการรักษามาตรการควบคุมโรคระบาดใหญ่ด้วยการเว้นระยะห่างทางสังคม และความจำเป็นของการเร่งรัดกระบวนการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรค" บรูโน โซลาโน นักวิจัยของสถาบัน IDOR กล่าว