ธนาคารแห่งอิตาลีเปิดเผยว่า อิตาลีมีหนี้สาธารณะสูงเกือบ 2.57 ล้านล้านยูโร (ราว 93.18 ล้านล้านบาท) เมื่อนับถึงสิ้นปี 2563 เพิ่มขึ้น 6.6% หรือ 1.59 แสนล้านยูโร (ราว 5.76 ล้านล้านบาท) เมื่อเทียบกับยอดช่วงสิ้นปี 2562
สถาบันสถิติแห่งชาติอิตาลี (ISTAT) เผยแพร่ประมาณการขั้นต้นว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของอิตาลีหดตัวราว 8.8% ในปี 2563 ซึ่งหมายความว่าสัดส่วนของหนี้สาธารณะต่อ GDP ของประเทศเพิ่มขึ้นจาก 134.7% ในปี 2562 มาอยู่ที่ 157.6% ช่วงปลายปี 2563
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ ISTAT เผยแพร่รายงานการเติบโตทางเศรษฐกิจของอิตาลีประจำปี 2563 ฉบับสุดท้ายในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ ตัวเลขสัดส่วนหนี้สินต่อ GDP ในปี 2563 อาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
ISTAT ระบุว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เศรษฐกิจอิตาลีเติบโตช้าในปี 2563 เนื่องจากรัฐบาลต้องใช้จ่ายเงินจำนวนสูงขึ้น ทำให้หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า อิตาลียังคงเป็นหนึ่งในประเทศที่มีหนี้สินสูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยมีปริมาณหนี้สิ้นสูงสุดในสหภาพยุโรป และมีสัดส่วนหนี้สินเมื่อเทียบกับจีดีพีสูงเป็นอันดับ 2 ในสหภาพยุโรป เป็นรองเพียงกรีซ ขณะที่หลายฝ่ายคาดว่าเศรษฐกิจอิตาลีจะเติบโตระหว่าง 2.5-6% ในปี 2564
บรรดานักเศรษฐศาสตร์ระบุว่า การเติบโตของเศรษฐกิจอิตาลีในปีนี้ ขึ้นอยู่กับแผนฉีดวัคซีนของประเทศและระยะเวลาในการฟื้นตัวของประเทศคู่ค้าหลัก สำหรับต้นปี 2564 จีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่แห่งเดียวของอิตาลีที่มีเศรษฐกิจเติบโตในเชิงบวก