นายโยชิฮิเดะ ซูงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เผยว่า รัฐบาลจะตัดสินใจในเร็วๆ นี้ว่าจะปล่อยน้ำที่ปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีที่ผ่านการบำบัดแล้วลงสู่ทะเลหรือไม่ โดยน้ำเหล่านี้เป็นน้ำที่เก็บกักไว้ที่โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์แห่งหนึ่งในจังหวัดฟุกุชิมะซึ่งเคยได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหว แม้ว่าจะมีเสียงคัดค้านอย่างรุนแรงจากอุตสาหกรรมประมงก็ตาม
นายซูงะได้จัดประชุมกับฮิโรชิ กิชิ ผู้อำนวยการสหพันธ์สหกรณ์ประมงแห่งชาติญี่ปุ่น (JF Zengyoren) เพื่อหารือประเด็นดังกล่าว และแถลงต่อผู้สื่อข่าวหลังการประชุมว่า เขาจะตัดสินใจในอีกไม่กี่วันนี้ว่าจะกำจัดน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีเหล่านี้อย่างไร
ทางด้านนายกิชิยังคงย้ำถึงจุดยืนของสหพันธ์ฯ ที่คัดค้านการปล่อยน้ำปนเปื้อนลงสู่ทะเล
ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิจิได้ผลิตน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีจำนวนมหาศาลนับตั้งแต่เกิดเหตุแผ่นดินไหว เนื่องจากโรงไฟฟ้าแห่งนี้ต้องการน้ำเพื่อใช้หล่อเย็นเตาปฏิกรณ์ โดยน้ำเหล่านี้ผ่านการบำบัดด้วยระบบแปรรูปของเหลวขั้นสูง (ALPS) เพื่อกำจัดสารปนเปื้อนส่วนใหญ่ แต่สารกัมมันตรังสี เช่น ทริเทียม (tritium) นั้นถูกกรองออกได้ยาก
โรงไฟฟ้าแห่งนี้เผชิญปัญหาในการกักเก็บน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีไว้ในถังของโรงงาน และคาดว่าภายในฤดูใบไม้ผลิปีนี้จะไม่เหลือพื้นที่ให้เก็บน้ำอีกแล้ว
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ญี่ปุ่นเคยคิดจะใช้วิธีการระเหยหรือเก็บน้ำที่ปนเปื้อนทริเทียมไว้ใต้ดินเป็นทางเลือก อย่างไรก็ตาม ในแง่ของต้นทุนและความเป็นไปได้ทางเทคนิคนั้น รัฐบาลญี่ปุ่นให้ความสนใจการเจือจางน้ำที่ปนเปื้อนและปล่อยลงสู่ทะเลมากกว่า อย่างไรก็ดี แผนดังกล่าวนอกจากจะเผชิญการต่อต้านอย่างรุนแรงจากอุตสาหกรรมประมงและสาธารณชนของญี่ปุ่นแล้ว ยังถูกตั้งคำถามจากประเทศข้างเคียงอีกด้วย