นายฮันส์ คลูจ ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) ประจำภูมิภาคยุโรปได้ออกมายืนยันว่า ประโยชน์ของวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 นั้นมีมากกว่าอันตราย หลังจากเดนมาร์กประกาศยุติการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าไปเมื่อวานนี้ (15 เม.ย.)
"ทุกคนควรเข้าใจตรงกันว่า วัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าสามารถลดอัตราการรักษาตัวในโรงพยาบาลและป้องกันการเสียชีวิตจากโควิดได้ องค์การอนามัยโลกแนะนำให้ผู้ใหญ่ที่มีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ทุกคนฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดยเร็วที่สุด" นายคลูจกล่าวแถลงข่าวทางออนไลน์
นายคลูจระบุว่า ปัจจุบันมีประชาชนฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าแล้วกว่า 200 ล้านคน "และมีคนจำนวนน้อยเท่านั้นที่เกิดภาวะเลือดแข็งตัวซึ่งพบได้ยาก สำหรับตอนนี้ ผู้ที่ป่วยด้วยโรคโควิด-19 เสี่ยงต่อภาวะเลือดแข็งตัวมากกว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าเป็นอย่างมาก"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ภูมิภาคยุโรปฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ทั้งหมด 7 ตัว รวมแล้ว 171 ล้านโดส โดยมีประชากรในยุโรปที่ได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 โดสแล้วเกือบ 13% และได้รับครบ 2 โดสไปแล้วเกือบ 6%
อย่างไรก็ดี นายคลูจยอมรับว่า WHO รับทราบถึงรายงานของการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันและเกล็ดเลือดต่ำหลังการฉีดวัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน พร้อมระบุเสริมว่า "WHO กำลังตรวจสอบรายงานเหล่านี้อย่างใกล้ชิด และจะเปิดเผยผลการตรวจสอบเมื่อถึงเวลา"
นายคลูจยังย้ำถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดในปัจจุบัน โดยระบุว่ายอดผู้ป่วยที่เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในภูมิภาคยุโรปสูงเกิน 1 ล้านรายแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน
"เราพบผู้ป่วยรายใหม่ 1.6 ล้านรายทุกสัปดาห์ เท่ากับ 9,500 รายทุกชั่วโมง หรือ 160 รายทุกๆ หนึ่งนาที" นายคลูจกล่าว