สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อวันศุกร์ (30 เม.ย.) บิออนเทค (BioNTech) บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของเยอรมนี และไฟเซอร์ (Pfizer) บริษัทเวชภัณฑ์ของสหรัฐเปิดเผยว่า ทั้งสองบริษัทได้ยื่นคำร้องต่อองค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) เพื่อขออนุมัติใช้งานวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 กับประชากรวัยรุ่นที่มีอายุ 12-15 ปี
การยื่นคำร้องดังกล่าวอ้างอิงข้อมูลจากการทดลองทางคลินิกระยะที่ 3 ของผู้เข้าร่วมการทดลองที่มีอายุ 12-15 ปีจำนวน 2,260 คน โดยแถลงการณ์จากทั้งสองบริษัทระบุว่า วัคซีนของบริษัทสามารถออกฤทธิ์ต้านเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ดีในภาพรวมในระหว่างการทดลอง
เยอรมนีอาจเริ่มฉีดวัคซีนของบิออนเทค/ไฟเซอร์ให้กับประชากรวัยเด็กและวัยรุ่นอย่างเร็วที่สุดในเดือนก.ย.นี้ โดยนายโทมัส เมอร์เทนส์ ประธานคณะกรรมการด้านวัคซีนของเยอรมนี (STIKO) เปิดเผยถึงความเป็นไปได้ดังกล่าวกับหนังสือพิมพ์ไรน์นิชเชอ โพสต์เมื่อวันศุกร์ (30 เม.ย.)
สถาบันโรเบิร์ต คอช (RKI) ระบุว่า โครงการฉีดวัคซีนของเยอรมนีมีความคืบหน้า โดยได้ฉีดวัคซีนให้กับประชาชนมากกว่า 1 ล้านโดสในวันพุธ (28 เม.ย.) ซึ่งนับเป็นสถิติรายวันสูงสุดครั้งใหม่ ขณะที่จำนวนผู้ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วอยู่ที่เกือบ 6.4 ล้านคนเมื่อนับถึงวันพฤหัสบดี (29 เม.ย.) ส่งผลให้อัตราการฉีดวัคซีนของประเทศอยู่ที่ 7.7%
ทั้งนี้ สถาบัน RKI เปิดเผยว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันในเยอรมนียุติการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วแล้ว แต่ก็ยังคงอยู่ในระดับสูง โดยมีการตรวจพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 24,329 รายเมื่อวันศุกร์ (30 เม.ย.) น้อยกว่าสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 3,200 ราย
ข้อมูลสถิติจากสถาบัน RKI ระบุว่า ปัจจุบันเยอรมนีมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รวมกว่า 3.38 ล้านราย และมีผู้เสียชีวิตสะสม 82,850 ราย