นางจาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ แถลงวานนี้ว่า รัฐบาลกำลังพิจารณาเปิดรับผู้เดินทางเข้าประเทศโดยไม่ต้องกักตัวเพิ่มขึ้น สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่นิวซีแลนด์เปิดพรมแดนกับออสเตรเลียไปเมื่อเดือนที่ผ่านมา และคาดว่าจะเปิดพรมแดนกับหมู่เกาะคุกในเร็วๆ นี้
"เป้าหมายของเราตอนนี้คือ การเชื่อมโยงชาวนิวซีแลนด์กับผู้คนทั่วโลกอีกครั้ง" นางอาร์เดิร์นกล่าว
สื่อท้องถิ่นรายงานว่า นับตั้งแต่เริ่มต้นโครงการทรานส์-แทสมัน (trans-Tasman) ซึ่งเป็นการเดินทางระหว่างนิวซีแลนด์และออสเตรเลียแบบไม่ต้องกักตัวเมื่อวันที่ 19 เม.ย. จนถึงตอนนี้ มีผู้คนมากกว่า 70,000 คนที่บินจากออสเตรเลียมายังนิวซีแลนด์ และอีก 57,000 คนที่บินจากนิวซีแลนด์ไปยังออสเตรเลีย
ส่วนการเดินทางแบบไม่ต้องกักตัว ระหว่างหมู่เกาะคุกกับนิวซีแลนด์นั้นจะเริ่มขึ้นตั้งแต่ในวันที่ 17 พ.ค.เป็นต้นไป
นางอาร์เดิร์นยังระบุถึงประเทศนีอูเอ (Niue) ซึ่งเป็นเกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ว่าเป็นจุดหมายถัดไปของโครงการดังกล่าว พร้อมย้ำว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเปิดพรมแดนแบบไม่ต้องกักตัวกับประเทศอื่นๆ ด้วย แม้ว่างานนี้อาจมีความเสี่ยงและความซับซ้อนก็ตาม
อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ไม่ได้กล่าวถึงแผนงานเฉพาะใดๆ เพียงแต่ให้สัญญาว่านิวซีแลนด์จะยังเปิดกว้างต่อไป
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นางอาร์เดิร์นจะเป็นผู้นำคณะผู้แทนการค้ากลุ่มหนึ่งเพื่อเดินทางไปยังออสเตรเลียในเดือนก.ค. ซึ่งจะเป็นการเดินทางไปต่างประเทศครั้งแรกของนางอาร์เดิร์น นับตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 เมื่อปีที่แล้ว นอกจากนี้ ในเดือนมิ.ย. นายเดเมียน โอคอนเนอร์ รัฐมนตรีกระทรวงการค้าของนิวซีแลนด์ก็มีกำหนดเดินทางไปยังกรุงลอนดอนและกรุงบรัสเซลส์ เพื่อหารือเรื่องข้อตกลงการค้าเสรีกับสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรปด้วย