ชิลีสั่งระงับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่พัฒนาโดยบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าและมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดให้แก่ประชาชนอายุต่ำกว่า 45 ปี เป็นการชั่วคราว หลังมีรายงานพบเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ของผู้รับวัคซีนตัวดังกล่าว
แถลงการณ์จากกระทรวงสาธารณสุขของชิลีระบุว่า กระทรวงฯ ได้รับแจ้งเมื่อวันอังคาร (1 มิ.ย.) ว่า พบชายวัย 31 ปี ประสบภาวะลิ่มเลือดอุดตันและเกล็ดเลือดต่ำ ซึ่งต่างชาติระบุว่าเป็นเหตุการณ์ที่พบได้ยากมาก ภายหลังจากการฉีดวัคซีนของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ดังนั้น กระทรวงฯ จึงตัดสินใจจำกัดให้ฉีดวัคซีนดังกล่าวในหมู่ผู้มีอายุ 45 ปีขึ้นไปเท่านั้น
นอกจากนี้ ชิลีจะดำเนินมาตรการป้องกันเชิงรุกข้างต้นระหว่างสถาบันสาธารณสุข (ISP) ดำเนินการสืบหาความเชื่อมโยงระหว่างวัคซีนและเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ สถาบัน ISP ได้อนุมัติให้มีการใช้วัคซีนต้านโรคโควิด-19 ของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าเป็นกรณีฉุกเฉินเมื่อวันที่ 27 ม.ค. หลังจากคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญของสถาบัน ISP ให้การรับรอง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ปัจจุบัน ชิลีดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้ประชาชนมากกว่า 10.9 ล้านคนแล้ว ขณะมีผู้ฉีดวัคซีนครบโดสกว่า 8.1 ล้านคน