สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อวันศุกร์ (18 มิ.ย.) ดร.วีเค พอล สมาชิกของนิติ อายอก (NITI Aayog) คลังสมองด้านการวางนโยบายของรัฐบาลอินเดียได้เปิดเผยว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 สามารถป้องกันการติดเชื้อได้อย่างน้อย 94% และลดความเสี่ยงในการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลได้ 75-80%
ดร.พอลอ้างอิงผลการศึกษาประสิทธิภาพของวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่ฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งบ่งชี้ว่า ผู้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มีความเป็นไปได้ที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ที่เพียงราว 8% และมีความเสี่ยงในการเข้ารักษาตัวในแผนกผู้ป่วยหนักอยู่ที่ 6% เท่านั้น
ทั้งนี้ อินเดียได้เริ่มดำเนินโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยใช้วัคซีนโควิชีลด์ (Covishield) ของแอสตร้าเซนเนก้า-มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด (AstraZeneca-Oxford) ซึ่งผลิตโดยสถาบันเซรุ่มอินเดีย (SII) และวัคซีนโควาซิน (Covaxin) ซึ่งผลิตโดยบริษัทภารัต ไบโอเทค (Bharat Biotech) ร่วมกับสภาวิจัยทางการแพทย์แห่งอินเดีย (ICMR) และเมื่อไม่นานนี้ อินเดียได้เริ่มใช้วัคซีนสปุตนิกไฟว์ (Sputnik V) ซึ่งเป็นวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จากรัสเซียด้วยเช่นกัน